สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

วงเดื อน นาราสั จจ์ 311 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๙ ช่วยกันขจัดให้หมดสิ้น โดยไม่หวั่นเกรงอันตรายในการปฏิบัติงานหรือเกรงว่าจะเป็นเป้าของการถูกโจมตี บุคคลเหล่านี้มีทั้งสตรีผิวด� ำที่เป็นอดีตทาสและที่เป็นเสรีชนโดยก� ำเนิดซึ่งต่างใช้สติปัญญาและประสบการณ์ ของแต่ละคนอาสาท� ำงานที่ถนัดให้กับขบวนการเลิกทาสเพื่ออิสรภาพของทาสผิวด� ำในสหรัฐอเมริกา สตรีอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาที่เป็นอดีตทาส กลุ่มสตรีอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาที่เป็นอดีตทาสและมีบทบาทโดดเด่นในฐานะสมาชิก ขบวนการเลิกทาสมีจ� ำนวนจ� ำกัด เนื่องจากการเป็นทาสท� ำให้ขาดโอกาสทางการศึกษาและเสรีภาพที่จะ ช่วยเหลือสนับสนุนขบวนการเลิกทาสได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามสตรีหลายคนที่เป็นอดีตทาสได้อุทิศ ตนเพื่อต่อต้านการมีทาสอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะสตรี ๒ คนที่มีบทบาทโดดเด่นมากในขบวนการเลิกทาส ของสหรัฐอเมริกา คือ โซเจอร์เนอร์ ทรูท (Sojourner Truth) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้หญิงแถวหน้าที่ เคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิของทาส คนผิวด� ำและสตรี และแฮร์เรียต ทับแมน (Harriet Tubman) ซึ่งอุทิศ ตนยอมเสี่ยงภัยเพื่อช่วยเหลือทาสจ� ำนวนมากให้ได้รับเสรีภาพโดยไม่หวั่นเกรงภยันตรายใด ๆ จนได้รับ ยกย่องว่าเป็นสมาชิกที่มีบทบาทโดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งของขบวนการเลิกทาส โซเจอร์เนอร์ ทรูท ๑๗ (ประมาณ ค.ศ. ๑๗๙๗-๑๘๘๓) เป็นลูกของทาส มีชื่อเดิมว่า อิซาเบลลา บอมฟรี (Isabella Baumfree) เกิดเมื่อประมาณ ค.ศ. ๑๗๙๗ ในมลรัฐนิวยอร์ก หลังจากนายทาสของ บิดามารดาที่มีเชื้อสายดัตช์เสียชีวิต ทรูทถูกขายให้นายทาสคนใหม่ที่โหดร้ายทารุณและถูกขายต่อ ๆ ไปอีก ๓ ครั้ง ใน ค.ศ. ๑๘๑๗ นายทาสชื่อ จอห์น ดูมองต์ (John Dumont) จัดการให้ทรูทแต่งงานกับ ทาสคนหนึ่ง หลังจากนั้น ทรูทให้ก� ำเนิดบุตรชาย ๑ คนและบุตรสาว ๒ คนซึ่งกลายเป็นทรัพย์สินของ เจ้าของทาสตามกฎหมาย ใน ค.ศ. ๑๘๒๖ ทรูทได้ข่าวว่ามลรัฐนิวยอร์กจะยกเลิกการมีทาสตั้งแต่วันที่ ๔ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๘๒๗ แต่เธอรอไม่ได้ จึงหลบหนีไปพร้อมกับบุตรสาวที่ยังเป็นทารก ต่อมา ทรูทได้ข่าว ว่าดูมองต์ได้แอบน� ำบุตรชายของเธอซึ่งมีอายุเพียง ๕ ปีไปขายให้แก่ชาวภาคใต้ในมลรัฐแอละแบมาโดยผิด กฎหมาย ทรูทจึงด� ำเนินฟ้องร้องต่อศาลในนิวยอร์ก กระทั่งน� ำบุตรชายกลับคืนมาได้ คดีนี้นับเป็นครั้งแรก ๆ ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาที่สตรีผิวด� ำสามารถฟ้องร้องเอาชนะชายผิวขาวได้ส� ำเร็จ ช่วงทศวรรษ ๑๘๓๐ ทรูทพ� ำนักอยู่ในนิวยอร์กและท� ำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงตนเองและลูก ๆ ส่วนใหญ่ท� ำหน้าที่คนรับใช้ในบ้านนักเผยแผ่ศาสนา (evangelist) และนักเทศน์ ท� ำให้ทรูทซึมซับหลักธรรม ค� ำสอนของศาสนาคริสต์ แต่ระหว่างนั้นเธอได้รับวิบากกรรมเนื่องจากถูกใส่ความว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ของอดีตนายจ้าง แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่าเธอและผู้ต้องหาอีก ๑ คนไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตาย ทรูท ๑๗ ดู “Sojourner Truth: A Life and Legacy of Faith,” http://www.sojournertruth.org/Library/Archive/LegacyOfFaith.htm ประกอบ สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙.

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=