สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

สมหวั ง พิ ธิ ยานุวั ฒน์ และจิ ราทั ศน์ รั ตนมณี ฉั ตร 263 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๙ การศึกษาของสิงคโปร์ แบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ๑) ระดับก่อนวัยเรียน ซึ่งรวมถึงการศึกษาในชั้นอนุบาลและสถานรับเลี้ยงเด็ก (อายุ ๓-๖ ปี) โรงเรียนอนุบาลซึ่งส่วนใหญ่จะด� ำเนินการโดยภาคเอกชนอยู่ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่เตรียมความพร้อมของเด็กเพื่อเข้าสู่ระดับประถม จัดการเรียนการสอน ๕ วันต่อสัปดาห์ ๑ วัน มี ๒ ช่วง โดยหลักสูตรจะประกอบไปด้วยวิชาภาษาอังกฤษและภาษาที่ ๒ ส่วนสถานรับเลี้ยงเด็กอยู่ใน ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคม ๒) ระดับประถมศึกษา (อายุ ๗-๑๒ ปี) ประกอบด้วย การเรียนชั้นประถมตอนต้น (Foundation Stage) ๔ ปี ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๔ และชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (Orientation Stage) อีก ๒ ปี การเรียนการสอนในระดับนี้จะเน้นความสามารถในการอ่านออกเขียนได้และการค� ำนวณ รวมทั้งมี การเสริมทักษะด้านอื่น ๆ อาทิ ศิลปะและงานฝีมือ สังคมศาสตร์ ดนตรี จริยธรรม พลศึกษา ส� ำหรับ วิชาวิทยาศาสตร์ จะเริ่มบรรจุเข้าไปในหลักสูตรในระดับประถมศึกษาปีที่ ๓ มีงานโปรเจ็กต์ที่ได้รับ มอบหมายบ้างระหว่างการเรียนการสอน แต่จะไม่มีผลต่อการสอบประเมินผล เมื่อนักเรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ ๔ จะมีการแบ่งระดับความสามารถและ ความถนัดของนักเรียนออกเป็น ๓ แผนการเรียน คือ ๒.๑) EM1 ส� ำหรับนักเรียนที่ท� ำคะแนนดีในวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาที่ ๒ และ คณิตศาสตร์ จะได้รับการจัดแผนการเรียนภาษาอังกฤษ และภาษาที่ ๒ ในระดับสูงขึ้นไป ๒.๒) EM2 ส� ำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ที่ท� ำคะแนนได้มาตรฐาน ๒.๓) EM3 ส� ำหรับนักเรียนที่ไม่ถนัดด้านภาษา และคณิตศาสตร์ ก็จะได้รับแผนการเรียน ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน และวิชาภาษาที่ ๒ ที่เน้นที่ทักษะการพูด การอ่าน และการฟัง เพื่อความเข้าใจ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕-๖ การจบการศึกษาในระดับนี้ นักเรียนทุกคนต้องสอบ Primary School Leaving Examination ซึ่งเรียกว่า PSLE ซึ่งเป็นการสอบระดับประเทศช่วงเดือนสิงหาคม ของทุกปี เพื่อเป็นเกณฑ์ในการเลือกแผนการเรียนในระดับมัธยมศึกษา ๓) ระดับมัธยมศึกษา มีให้เลือก หลัก ๆ ๓ แผน คือ ๓.๑) แผนเร่งรัด (Express Course) จะใช้เวลาเรียนเพียง ๔ ปี (อายุ ๑๓-๑๖ ปี) เป็น นักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุดร้อยละ ๑๐ แรกของการสอบ PSLE ทั้งนี้ นักเรียนในแผนการเรียนพิเศษนี้ จะต้องเรียนภาษาอังกฤษและภาษาที่ ๒ ในขั้นสูงกว่าแผนการเรียนปรกติ และจะเรียนวิชาทั้งหมด ๗-๘ วิชา ทั้งนี้ นักเรียนที่มีผลการเรียนดีเป็นพิเศษอาจถูกจัดให้เรียนถึง ๙ วิชา ซึ่งประกอบไปด้วย วิชาในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น