สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
เดื อน ค� ำดี 107 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๙ สัตว์โลกให้พ้นทุกข์ จึงท� ำให้เกิดพระสงฆ์ขึ้นมา พระธรรม คือ ความจริงที่เข้าถึงได้ด้วยปัญญา ผู้เข้าถึง ได้กลายเป็นพระพุทธเจ้าและเป็นหลักของสงฆ์ ผู้ปฏิบัติตามธรรมะกลายเป็นสมาชิกสงฆ์ ท� ำให้เกิด สังฆะ ดังนั้น พระธรรมจึงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์ พระสงฆ์ คือ ผู้เข้าถึง พระธรรมตามอย่างพระพุทธเจ้า โดยอาศัยความกรุณาของพระพุทธเจ้า ท� ำให้เข้าถึงพระธรรมได้ พระสงฆ์ประกอบกันเป็นรูปแบบอยู่ได้ด้วยอาศัยพระวินัย เป็นฐานควบคุมให้คงความเป็นรูปสงฆ์ มีสามัคคี คือ พลังยึดเหนี่ยวและความเป็นกัลยาณมิตร กล่าวคือ เนื้อหาของพระสงฆ์ พระสงฆ์แบ่งเป็น สมมติสงฆ์และอริยสงฆ์ สมมติสงฆ์ ได้แก่ ผู้ก� ำลังปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุอริยสัจธรรม และอริยสงฆ์คือ ผู้บรรลุอริยสัจธรรมชั้นใดชั้นหนึ่งตั้งแต่โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหัตผลแล้ว กลายเป็น องค์หนึ่งในพระรัตนตรัย พระสงฆ์เป็นศูนย์กลางเชื่อมพุทธบริษัททั้ง ๔ เหล่าคือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งเพศบรรพชิตและคฤหัสถ์ เข้าด้วยกัลยาณมิตตธรรม สถาบันสงฆ์กลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ของชาวโลก ๕. ในฐานะเป็นความสัมพันธ์กับมนุษย์ พระพุทธเจ้า สัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะทรงเป็น แม่แบบ ตัวอย่างที่ท� ำให้มนุษย์เชื่อมั่นในศักยภาพของตนว่า สามารถฝึกฝนพัฒนาตนได้สูงสุดเป็น พระพุทธเจ้าได้ ซึ่งเป็นมนุษย์สมบูรณ์สูงสุด พระธรรม สัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะพระธรรมคือความจริง ในธรรมชาติและในตัวมนุษย์ จึงต้องมีการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่แสดงออกเป็น “ธรรมะ” นั้น เพื่อหลีกเลี่ยงโทษภัย จึงได้อาศัยแม่แบบตามอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติ พระสงฆ์ สัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะเป็นแหล่งกัลยาณมิตร ที่จะช่วยแนะน� ำ เร้าเตือนมนุษย์ให้เดินหน้าไปใน การพัฒนาตน ไปเป็นส่วนหนึ่งของสงฆ์ เมื่อมนุษย์มีตนพัฒนาแล้วก็สามารถเป็นกัลยาณมิตรของผู้อื่น ต่อไป ดังนั้น มนุษย์ ธรรมชาติ และสังคม จึงสัมพันธ์เชิงบูรณาการกับพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมทั้งตัวมนุษย์เองอย่างแยกกันไม่ออก สรุป ค� ำสอนในคัมภีร์พระเวทมีศูนย์รวมอยู่ในศรุติ เรื่องพรหมัน (อัตตา) วรรณะการบูชายัญ ฤกษ์ยาม แสดงออกโดยมีอัตตาหรือเทพเจ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คอยปกป้อง คุ้มครองให้โทษให้คุณแก่มนุษย์ แบ่งผู้คนในสังคมออกเป็น ๓ พวก คือ ๑. พวกที่เชื่อว่าพรหมัน เป็นต้นเค้าของสรรพสิ่ง ส� ำแดงออกเป็นเทพเจ้าทั้งหลาย มีพระพรหม พระนารายณ์ พระอิศวรหรือศิวะ รวมทั้งพระอินทร์ด้วย ถือว่าสิ่งใดก็ตามที่ตนได้ประสบ จะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม โชคดีก็ตาม โชคร้ายก็ตาม ในโลกนี้ ล้วนแต่เป็นเพราะการบันดาลของเทพผู้ยิ่งใหญ่ เรียกว่า พรหมลิขิต
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=