สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๙ 25 “ นางร� ำภานารีชลีฉลอง จะตรึกตรองตามพระคุณการุญสอน แล้วกราบลามาวังทูลบังอร นางทุกข์ร้อนรู้ว่าคิดนั้นผิดพลั้ง เป็นคราวเคราะห์เพราะว่ากรรมจะท� ำเข็ญ เผอิญเป็นผิดอย่างแต่ปางหลัง ไม่บอกกล่าวเล่าให้ผู้ใดฟัง ที่ผิดพลั้งตื้นลึกไม่ตรึกตรอง แล้วเปิดหีบหยิบชิ้นดินถนัน ดูสีสันนั้นยังดีไม่มีหมอง นางเชือดใส่ในจานรองพานทอง เป็นส่วนของสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา แต่ส่วนพระมเหสีนั้นที่หนึ่ง มิให้หึงจะให้รักนั้นหนักหนา ให้บุตรีพี่น้องสองสุดา ถือตามมาหาสุวรรณมาลี ให้พี่น้องสององค์วางตรงหน้า นางวันทาถวายพระมเหสี แล้วเล่าความตามที่หลงในพงพี ไปถึงที่เขาอังกาศเพียงขาดใจ เป็นบุญช่วยด้วยว่ากินดินถนัน จึงผิวพรรณพักตร์หมองก็ผ่องใส ฝ่ายองค์พระมเหสีดีพระทัย ว่าขอบใจแม่วัณฬาหนักหนานัก ความรักพี่ดีจริงทุกสิ่งสิ้น สมเป็นปิ่นปถพีที่มีศักดิ์ ทั้งชาตินี้พี่กับน้องจะครองรัก สาพิภักดิ์พึ่งพาพระบารมี แล้วหยิบชิ้นดินถนันนั้นเสวย พลางชวนเชยสองรามารศรี สร้อยสุวรรณจันทร์สุดากุมารี อัญชลีแล้วเสวยชื่นเชยชม ” (จากตอนที่ ๔๕ นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร ขณะพระสังฆราชบาทหลวงท� ำนายเรื่องนางเสาวคนธ์ ขุดโคตรเพชรไป หน้า ๙๑๔ แต่งที่เพชรบุรี ในปลายปีฉลู พ.ศ. ๒๓๘๔ ด้วยเรื่องกับกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ดังมีกล่าวต่อมาอยู่ใน “ ร� ำพันพิลาป ” วันเกิดเรื่องคือ “ เดือนแปดวันจันทวาร์เวลานอน ” ของปีฉลูเดียวกัน หลังการบวชครั้งที่ ๒) “ พลางลูบหลังตามเคยชะเลยใจ เหมือนเปลวไฟฝอยนิดก็ติดเชื้อ เข้าเคียงข้างพลางพลอดแล้วกอดก่าย ไม่รู้หายหอมให้อาลัยเหลือ ระรื่นกลิ่นดินถนันจวงจันทร์เจือ ไม่รู้เบื่อรสฝรั่งเมืองลังกา อัศจรรย์นั้นเพียงตะเกียงดับ หิ่งห้อยวับแวมเรืองริมเฝืองฝา เฝ้าสั่งซ�้ ำร�่ ำให้อาลัยลา แล้วต่างไปไสยาในราตรีฯ ” (จากตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง ขณะสินสมุทรร�่ ำลานางยุภาผกา หน้า ๙๑๙ แต่งในปลาย ปีฉลู พ.ศ. ๒๓๘๔ ตอนหนีไปอยู่เพชรบุรีด้วยเรื่องกับกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ แล้วได้ใช้เวลาแต่งเพลงยาว “ กาพย์พระไชยสุริยา ” พาดพิงถึงพระองค์ “ กับเพลงยาวคราวลังกาเก็บมานั้น ไว้บนบรรจถรณ์สถิตปิดทวาร ” ทศพร วงศ์รัตน์
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=