สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
The Journal of the Royal Society of Thailand Vol. 41 No. 3 July-September 2016 10 “ นิราศพระบาท ” ส� ำหรับนางจัน “ นิราศวัดเจ้าฟ้า ” ส� ำหรับกรมพระราชวังบวรฯ เจ้าฟ้ามหาศักดิพลเสพ ถึงนางงิ้ว และสมเด็จเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี “ นิราศอิเหนา ” ส� ำหรับนางงิ้ว “ นิราศพระแท่นดงรัง ” ส� ำนวน พ.ศ. ๒๓๗๖ และ พ.ศ. ๒๓๗๙ ส� ำหรับนางม่วงและนางนิ่ม ตามล� ำดับ ว่า “ โอ้ดูเดือนเหมือนดวงสุดาแม่ กระต่ายแลเหมือนฉันคิดพิสมัย ” “ นี่แลแลก็เห็นแต่ตลิ่งชัน ถึงปากจั่นตะละเตือนให้ตรอมใจ โอ้นามน้องหรือมาพ้องกับชื่อบ้าน ลืมร� ำคาญแล้วมานึกร� ำลึกได้ ” “ ถึงบ้านงิ้วงิ้วต้นแต่พ้นหนาม ไม่งอกงามเหมือนแม่งิ้วที่ผิวเหลือง เมื่อแลพบหลบพักตร์ลักช� ำเลือง ดูปลอดเปลื้องเปล่งปลั่งก� ำลังโลม ” “ บ้างก็ชี้ชมพวงมะม่วงพรวน บ้างชักชวนชมชี้ให้พี่ดู เห็นต้นไม้ชื่อพ้องกับน้องรัก เพื่อนเขาทักถูกชื่อให้ครือหู ” “ คิดถึงนุชบุษบานิจจาเอ๋ย มิได้เชยชมสบายมาหายสูญ ” “ ถึงบางกรวยให้ระทวยระทดทอด แทบม้วยมอดมรณังสิ้นสังขาร พี่แข็งขืนกลืนกล�้ ำที่ร� ำคาญ ท� ำชื่นบานแย้มเยื้อนกับเพื่อนกัน ” อนึ่ง ในการแต่งค� ำกลอนให้หลากหลาย สุนทรภู่ยังมีเรื่องสนุกเกี่ยวกับการเล่นค� ำ เช่น เริ่มตั้งแต่ ปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๕๐ เมื่อแต่ง “ นิราศเมืองแกลง ” ก็ใช้ค� ำว่า “ โอ้ ” รวมถึง ๒๖ ครั้ง ส่วนใน “ นิราศพระบาท ” งานต่อมาในปีเดียวกันก็มีค� ำนี้อยู่ถึง ๒๑ ครั้ง ในปีขาล พ.ศ. ๒๓๗๓ เมื่อแต่ง “ นิราศภูเขาทอง ” ได้คิดใช้ ค� ำว่า “ โอ้ ” ไว้ได้ รวม ๑๖ ครั้ง ต่อมาใน “ นิราศอิเหนา ” งานปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๗๗ แม้จะไม่ยาวนักแต่ก็ แต่งค� ำกลอนไว้ด้วย ค� ำว่า “ โอ้ ” ถึง ๒๑ ครั้ง แล้วถึงปีฉลู พ.ศ. ๒๓๘๕ เมื่อแต่ง “ นิราศพระประธม ” ก็ใช้ค� ำว่า “ โอ้ ” มากถึง ๓๘ ครั้ง ยังมีค� ำกลอนที่ใช้กับค� ำว่า “ เห็นสิ่งไร ” ขณะเดินทางซ�้ ำกันอีก ดังเช่น ที่กล่าวไว้ใน “ นิราศพระแท่นดงรัง ” ส� ำนวนปีวอก พ.ศ. ๒๓๗๙ ในกรณีนี้ จึงยังเป็นการยืนยันด้วยค� ำนี้ พร้อมกับค� ำว่า “ เห็น ” อื่น ๆ อีกถึง ๕๔ ครั้ง อย่างผิดสังเกต ซึ่งผู้เขียนไม่เคยพบว่ามีผู้อื่นใช้ ท� ำให้ยังต้อง กล่าวว่า ส� ำนวน “ สารสังวาสนิราศเรื่อง ” นี้ก็เป็นผลงานของสุนทรภู่ ดังค� ำกลอนของสุนทรภู่เองอยู่ใน นิทาน พระอภัยมณี ตอนที่ ๔๐ หน้า ๗๗๖ ที่แต่งในราวปลายปีวอก พ.ศ. ๒๓๗๙ และค� ำข้างต้นนี้ยังมีปรากฏอยู่ ใน “นิราศพระประธม” ปีขาล พ.ศ. ๒๓๘๕ ตามล� ำดับ ว่า “ เห็นสิ่งไรใจหวนให้ครวญคร�่ ำ ทุกย่านน�้ ำแนวหนองคลองละหาน ใครจะเป็นเช่นพี่ไม่มีปาน เหลือประมาณที่รักภัคินี ” “ เห็นสิ่งไรในจังหวัดรัถยา สะอื้นอาลัยถึงคะนึงนวล ” “ เห็นสิ่งไรใจพี่ไม่มีเพลิน ส่วนเรือเดินด่วนไปใจจะคืน ” กวาวเครือ และดินโป่งเป็น ดินถนัน ถันสุธา นมพระธรณี ในนิทานพระอภัยมณีค� ำกลอน
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=