สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๙ 9 ที่จะทรงเรียกตัวใช้ง่าย เป็นค� ำกลอนย้อนเหตุการณ์ราว ๑๑ ปี ว่า “ โอ้บาปกรรมน�้ ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมา เหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย ” โดยยังได้ยืนยันในเรื่องนี้ทันทีขณะติดคุกไว้กับตัวละคร ใน “ ก� ำเนิดพลายงาม ” ว่า “ พ่อเอ็งว่าอย่างไรเขาไม่กลัว เพราะเมามัวเมียลาวนางชาววัง ไปทูลขอพระองค์ทรงพระโกรธ ให้ลงโทษทนทุกข์ใส่คุกขัง ” ด้วยการที่สุนทรภู่เป็นผู้ที่มีทักษะสูงมาก อีกทั้งมีความสามารถและแตกฉานในการเลือกใช้ค� ำได้ รวดเร็ว กะทัดรัด ที่ให้ภาพลักษณ์ถึงสิ่งที่อยากบอก อยากบันทึก โดยมักเทียบด้วยเรื่องในความคิดของ ตัวเองที่ไม่ใช่ความเท็จ เพื่อบอกแก่ผู้อ่าน ประกอบกับการเป็นผู้ที่ชอบท่องเที่ยวหาความรู้ ชอบสังเกต ในทุกรายละเอียด ได้รู้เห็นธรรมชาติน�้ ำและป่าซึ่งในสมัยนั้นมีความสมบูรณ์มาก เพื่อใช้เป็นฉากแต่งระบาย เรื่องที่อยู่ในใจ แม้กระทั่งฝึกแต่ง จดเก็บไว้ รอการใช้ เมื่อไม่มีการเดินทางจริง เช่นขณะแต่งในยามค�่ ำคืน หรือในระหว่างจ� ำพรรษา ดังตัวอย่างจากท้ายเรื่องตั้งแต่โคลงที่ ๒๗๔ ของ “ โคลงนิราศสุพรรณ ” หรือใน “ ร� ำพันพิลาป ” ดังนั้น ผู้อ่านจึงอาจพบค� ำกลอนที่สุนทรภู่เหมือนคัดลอกของตัวเอง น� ำออกมาใช้ซ�้ ำกัน อยู่เสมอ และสุนทรภู่ก็พอใจวิธีนี้ของตน ในนิทานพระอภัยมณีจึงมีแต่การเดินทาง เมื่อสบโอกาสจึงได้ชี้แจง การหาฉากด้วยการออกเที่ยว และการจดจ� ำไว้ ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น ตั้งแต่ใน “ โคบุตร ” ซึ่งเป็นงานใน พ.ศ. ๒๓๔๙-๒๓๕๐ หรือใน “ เพลงยาวถวายโอวาท ” พ.ศ. ๒๓๗๓ “ นิราศวัดเจ้าฟ้า ” พ.ศ. ๒๓๗๖ “ นิราศพระแท่นดงรัง ” พ.ศ. ๒๓๗๙ “ นิราศพระประธม ” พ.ศ. ๒๓๘๕ จนถึง “ นิราศเมืองเพชร ” พ.ศ. ๒๓๘๕ ตามล� ำดับ ว่า “ มิได้สนองคุณให้สิ้นคราว ด้วยเปลี่ยวเปล่าเอ้องค์ในดงแดนฯ ” “ ยกลูกให้แก่พระน้องทั้งสองรา จะกราบลาเที่ยวให้เพลินเจริญใจ ” “ ด้วยเดี๋ยวนี้มิได้รองละอองบาท จะนิราศแรมไปไพรพฤกษา ” “ จึงจดหมายรายเรื่องที่เคืองเข็ญ ไปเที่ยวเล่นลายแทงแสวงหา เห็นสิ่งไรในจังหวัดรัถยา ได้จดมาเหมือนหนึ่งมีแผนที่ไว้ ” “ แต่ตัวพี่ผู้เดียวมาเที่ยวท่อง ให้ห่างน้องห่างมิตรพิสมัย ” “ เห็นสิ่งไรในจังหวัดรัถยา สะอื้นอาลัยถึงคะนึงทาง ” “ จึงจดหมายรายความตามสังเกต ถิ่นประเทศแถวทางกลางวิถี ” อีกทั้งเรื่องที่เป็นนิสัยกับผู้คนทุกระดับ โดยเฉพาะเพศหญิง การเปรียบเทียบชื่อ สถานที่ หรือ สิ่งที่เห็นสิ่งอื่น ๆ ขณะท่องเที่ยว ฝากไว้กับผู้หญิงที่จากมา แม้บางครั้งจะไม่มีตัวตน แต่ก็มักจะใช้ว่าพลัดพราก เสมอและเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตามวิสัยการแต่ง ดังเช่นที่กล่าวไว้ ใน “ นิราศเมืองแกลง ” และ ทศพร วงศ์รัตน์

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=