สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

The Journal of the Royal Society of Thailand Vol. 41 No. 3 July-September 2016 100 ๒. การตัดแต่ง มะม่วงเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่สูงประมาณ ๑๐-๒๕ เมตรและมีทรงพุ่มใหญ่ มาก ดังนั้น การปลูกระบบชิดจึงต้องมีการตัดแต่งมาก เพื่อให้ต้นไม่สูงมากและทรงพุ่มมีขนาดเล็ก การปลูก มะม่วงระบบชิดที่เกาะไหหล� ำมีการตัดแต่งมาก (รูปที่ ๙) การตัดแต่งอย่างมากของมะม่วงที่เกาะไหหล� ำ ยังมีวัตถุประสงค์ให้ต้นมะม่วงแตกใบอ่อนใหม่ส� ำหรับการใช้สารเคมีเร่งการออกดอกอีกด้วย ๓. การใช้สารเคมีเร่งการออกดอก โดยธรรมชาติการออกดอกติดผลของมะม่วงจะเกิดขึ้นปีละ ๑ ครั้ง ยกเว้นมะม่วงทะวายที่ต้นเดียวกันอาจจะออกดอกติดผลมากกว่า ๑ ครั้งต่อปีแต่ไม่ใช่กิ่งเดียวกัน มะม่วงที่ออกดอกและติดผลตามฤดูกาลจะมีผลิตผลจากสวนต่าง ๆ พร้อมกันในปริมาณที่มาก ท� ำให้ ผลมะม่วงมีราคาถูก ดังนั้น ผู้ปลูกจึงพยายามหาวิธีการบังคับให้มะม่วงออกดอกติดผลนอกฤดูกาล ไม่ว่าก่อนหรือหลังฤดูกาลปรกติ ซึ่งจะท� ำให้ผลมะม่วงมีราคาสูงในตลาด การใช้สารเคมีเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้บังคับ ให้ต้นมะม่วงออกดอกนอกฤดูกาลได้ ในการเร่งหรือบังคับการออกดอกนั้นใช้สารแพโคลบิวทราซอล (paclobutrazol) ซึ่งมีชื่อ เคมีว่า ( 2RS, 3RS )-1-(4-chlorophenyl)-4 ,4-dimethyl-2-(1H-1,2,4 triazol-1-yl) pentan-3-ol สารนี้อาจมีชื่อการค้าเป็นชื่ออื่น ๆ เช่น Piccolo, Piccolo 10 XC, Bonzi, Paczol, Downsize, Culta สารนี้ยับยั้งการสร้างสารจิบเบอเรลลิน (gibberellin) ในพืช สารจิบเบอเรลลินเป็นฮอร์โมนมีหน้าที่เร่งการ ขยายความยาวของเซลล์ที่แบ่งตัวใหม่ และยังท� ำให้ใบมีปริมาณคลอโรฟีลล์เพิ่มขึ้นและท� ำให้ต้นพืชทนต่อ สภาพความเครียด อีกนัยหนึ่งที่ทราบกันคือสารจิบเบอเรลลินเร่งการเติบโตทางกิ่งและใบของพืช ต้นพืชที่ เติบโตทางกิ่งก้านมากจะใช้อาหารสะสมเพื่อการเติบโตด้านนี้ ท� ำให้ต้นพืชไม่มีอาหารสะสมพอส� ำหรับการ ออกดอก ดังนั้น การใช้สารแพโคลบิวทราซอลกับต้นมะม่วงจะท� ำให้ต้นมะม่วงชะลอการเติบโตทางกิ่งก้าน และมีอาหารสะสมเหลือพอเพื่อการออกดอก อย่างไรก็ตาม การใช้สารแพโคลบิวทราซอลกับต้นมะม่วงนั้น จะต้องท� ำให้ต้นมะม่วงมีการแตกใบอ่อนก่อน การตัดแต่งมากของต้นมะม่วงนอกจากต้องการท� ำให้ต้นมะม่วง มีต้นไม่สูง และมีทรงพุ่มไม่ใหญ่แล้ว ท� ำให้ต้นมะม่วงมีการแตกใบใหม่เพื่อเตรียมต้นให้พร้อมส� ำหรับการใช้ สารแพโคลบิวทราซอล ต้นมะม่วงที่จะใช้สารต้องมีความอุดมสมบูรณ์ ต้องบ� ำรุงรักษาต้นโดยการตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย และดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลงเข้าท� ำลาย ระยะเวลาที่เหมาะสมกับ การใช้สารคือในช่วงที่ใบยังอ่อนหรือที่เรียกว่า ใบพวง (อายุประมาณ ๑๕ ถึง ๓๐ วัน) ในประเทศไทยเกษตรกร ไม่ได้ตัดแต่งมะม่วงให้แตกใบใหม่เหมือนเกษตรกรที่เกาะไหหล� ำ แต่กระตุ้นให้มีการแตกใบอ่อนขึ้นมาใหม่ ได้โดยการใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงและให้น�้ ำสม�่ ำเสมอ นอกจากนี้ อาจใช้สารโพแทสเซียมไนเทรตร้อยละ ๒.๕ (ใช้สาร ๕๐๐ กรัมผสมน�้ ำ ๒๐ ลิตร) หรือไทโอยูเรียร้อยละ ๐.๕ (ใช้สาร ๑๐๐ กรัม ผสมน�้ ำ ๒๐ ลิตร) พ่นให้ทั่วต้นในระยะที่มะม่วงใบแก่จัดเพื่อกระตุ้นให้มีการแตกตา เมื่อมะม่วงแตกใบอ่อนแล้ว ต้องดูแล ใบอ่อนให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลงรบกวน จนกระทั่งใบอ่อนมีอายุ ๑๕ ถึง ๓๐ วัน การปลูกมะม่วงที่เกาะไหหล� ำ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=