2708_9895

5 ปีที่ ๒๒ ฉบับที่ ๒๕๒ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ ดินแดนที่เห็นปรากฏการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบคือ ประเทศในทวีปเอเชียด้าน ตะวันออก ด้านตะวันออกของจีน ด้านตะวันออกของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์เกือบทั้งประเทศ ฮาวาย ด้านตะวันตกของแคนาดา อะแลสกา ดินแดนที่เห็นได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนสิ้นสุดปรากฏการณ์คือ เกือบ ทุกประเทศในยุโรป ทวีปแอฟริกาด้านตะวันออก ตะวันออกกลาง ทวีป เอเชียด้านตะวันตก ด้านตะวันออกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศ ไทยอยู่ในเขตนี้ ทวีปออสเตรเลียด้านตะวันตก ดินแดนที่เห็นขณะดวงอาทิตย์ตกซึ่งปรากฏการณ์ยังไม่สิ้นสุด คือส่วน ใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และด้านตะวันออกเฉียงเหนือของ อเมริกาใต้ โดยปรากฏการณ์เกิดขึ้นในวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ศ. ดร.ปรีดา วิบูลย์สวัสดิ์ ราชบัณฑิต บรรยายเรื่อง ความสามารถ ในการแข่งขันระดับอุดมศึกษาในอาเซียน ความโดยสรุปว่า หน่วยงานหลัก ที่ประเมินสมรรถนะของสถาบันอุดมศึกษาทั่วโลก และได้ยอมรับกันอย่าง กว้างขวาง ได้แก่ Academic Rankings of World University (ARWU), QS World University Rankings (QS WUR) และ THE World University Rankings (THE WUR) ทั้งสามหน่วยงานได้ประเมิน ให้ National University of Singapore (NUS) เป็นสถาบันอุดมศึกษา อันดับหนึ่งของอาเซียน ในสิบอันดับแรกของสถาบันอุดมศึกษาในอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดลและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ติดอันดับของ QS WUR มหาวิทยาลัยมหิดลเท่านั้นที่ติดอันดับของ THE WUR ไม่มี มหาวิทยาลัยไทยติดอันดับของ ARWU เลย NUS ได้รับประเมินจาก QS WUR ให้เป็นอันดับหนึ่งของทุกกลุ่ม สาขาวิชาในสิบอันดับแรกของอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดลและจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยอยู่ในกลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยเท่านั้นอยู่ในกลุ่มสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยมหิดลเท่านั้นอยู่ในกลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ในการประเมินคุณภาพการวิจัยของอุดมศึกษาไทยโดย สกว. เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ ปรากฏว่าเพียงประมาณร้อยละ ๑๐ ของสาขาวิชาหลัก ใน กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาไทย มีคุณภาพเทียบ เท่าระดับนานาชาติ สถาบันอุดมศึกษาไทยน่าจะวิเคราะห์จุดอ่อนของตน แล้วหาทางปรับปรุงเพื่อให้สามารถแข่งขันในอาเซียนได้ดีขึ้น ๏ วันพุธที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ ภาคีสมาชิก บรรยายเรื่อง ไวรัสตับอักเสบ บี ซี รักษาให้หายได้ ความโดยสรุปว่า ไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี เป็น ปัญหาของประชากรโลก ปัจจุบันมีผู้เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี มากกว่า ๔๐๐ ล้านคน และ ๑๗๐ ล้านคน ตามลำดับ สำหรับประเทศไทย อุบัติการไวรัสตับอักเสบ บี พบได้ประมาณร้อยละ ๔ หรือประมาณ ๒.๕ ล้านคน ไวรัสตับอักเสบ ซี ประมาณร้อยละ ๒ หรือประมาณ ๑ ล้านคน ไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กอายุน้อยกว่า ๒๐ ปี ปัจจุบันพบได้น้อย เป็นพาหะ เหลือเพียงร้อยละ ๐.๗ ทั้งนี้เกิดจากการให้วัคซีนในขวบปีแรก เป็นระยะ เวลากว่า ๒๐ ปี (เริ่มให้ปี ๒๕๓๕) อย่างไรก็ตามยังมีผู้ที่ติดเชื้อเรื้อรังทั้ง ไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี อยู่เป็นจำนวนมาก ตามได้กล่าวมาแล้ว ถึงแม้ว่า ไวรัสตับอักเสบ บี สามารถป้องกันได้อย่างดีมากด้วยวัคซีน ปัจจุบันได้มี การพัฒนายา ใช้รักษาไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี มีประสิทธิภาพ ลดการ คุกคามตับ เพื่อไม่ให้เกิดตับแข็งและมะเร็งตับ ไวรัสับอักเสบ บี ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ (กว่าครึ่งหนึ่ง) มักจะติด เชื้อมาตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยเด็ก และไม่แสดงอาการ จะมีอาการเมื่อโตเป็น ผู้ใหญ่ ในปัจจุบัน มียาต้านไวรัส เช่น Lamivudine Adefovir Entecavir Tenofovia และยากระตุ้นภูมิต้านทานร่างกายให้ต่อต้านไวรัส บี เช่น interferon ใช้รักษาได้ผล สามารถลดการแบ่งตัวของไวรัส จนแทบจะไม่ สามารถตรวจพบไวรัสได้ในกระแสเลือด การรักษาด้วย interferon ปัจจุบันใช้ long acting interferon (pegIFN) จะใช้ระยะเวลาในการรักษา ๖ เดือน การใช้ยาต้านไวรัสต้องใช้ ตลอดไป ปัจจุบันไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าจะใช้ไปนานเท่าไร ผลการ รักษาระยะยาวได้ผลดีมาก สามารถลดอุบัติการการเกิดตับแข็งและมะเร็ง ตับได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังช่วยลดการแพร่กระจายของโรคได้อีกด้วย ไวรัสตับอักเสบ ซี มีการดำเนินโรค ทำลายตับอย่างช้า ๆ ใช้เวลานับ ๑๐ ปี กว่าจะเป็นตับแข็งและมะเร็งตับ การรักษาในปัจจุบันได้ผลดีมาก ด้วยการให้ยา PegIFN ร่วมกับ ribavirin (ยาต้านไวรัส) ผลการรักษา สามารถทำให้ไวรัสหมดไป (sustained virological response) มากถึง ร้อยละ ๕๐-๘๐ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัส โดยพบว่าสายพันธุ์ genotype 1 การรักษาจะได้ผลน้อยกว่าสายพันธุ์ genotype 3 และ 6 (ในประเทศไทยสายพันธุ์พบบ่อยเป็น 3, 1 และ 6 ตามลำดับ) นอกจากนี้ ยังพบว่าพันธุกรรมของผู้ป่วยยังมีผลต่อการรักษาอีกด้วย กล่าวคือ single nucleotide polymorphism (SNP) ของยีน IL28B มีส่วนสัมพันธ์ เกี่ยวข้องอย่างเด่นชัดที่มีผลต่อการรักษาในสายพันธุ์ที่ ๑ SNP ของ IL28B ในประชากรไทย ส่วนใหญ่จะมีพันธุกรรมที่ตอบสนองดีกว่าเมื่อ เปรียบเทียบกับเชื้อชาติตะวันตกหรือแอฟริกา นอกจากนี้ยังสามารถตรวจ หาพันธุกรรมที่จะทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนของ ribavirin ที่ทำให้เม็ดโลหิตแดงแตกได้ง่ายคือ SNP ของยีน ITPA อีก ด้วย ในปัจจุบัน จุดมุ่งหมายในการรักษาไวรัสตับอักเสบ ซี ให้หาย และ ไวรัสหมดไปจากร่างกายอย่างถาวร จึงได้มีการพัฒนายาต้านไวรัสขึ้นมาใช้ ร่วมด้วยอีกในกลุ่ม protease inhibitor ได้แก่ Boceprevia และ Teleprevir ที่ใช้ในการรักษาสายพันธุ์ genotype 1 และยังมียาที่พัฒนา ตามมาอีกมากมายในอนาคตอันใกล้นี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าการรักษาไวรัสตับ อักเสบ ซี ในอนาคตจะเพิ่มอัตราหายได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ หรือเกือบทั้งหมด สำนักศิลปกรรม ๏ วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ศ. ดร.อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์ ราชบัณฑิต บรรยายเรื่อง ประโยค กฤตกรรมอนุพันธ์เป็นคำลงท้าย ความโดยสรุปว่า ประโยคกฤตกรรม (performative sentence) คือประโยคระดับสูงในโครงสร้างลึก (deep structure) ประโยคเหล่านี้จะมีคำกริยาที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าคำลงท้าย (final particle) ในประโยคที่อนุพันธ์ (derive) มาเป็นประโยคในโครงสร้างผิวจะ เป็นคำว่าอะไร เช่น คำกริยาในประโยคกฤตกรรมว่า “บอก” จะอนุพันธ์ เป็นคำลงท้ายว่า “ครับ” ถ้าผู้พูดเป็นผู้ชาย หรือเป็นคำลงท้ายว่า “ค่ะ” ถ้า ผู้พูดเป็นผู้หญิง ดังในประโยคกฤตกรรมว่า “ผมบอกว่าผมรับประทาน อาหารเย็นแล้ว” จะอนุพันธ์มาเป็นประโยคว่า “ผมรับประทานอาหารเย็น แล้วครับ” หรือประโยคกฤตกรรมว่า “ดิฉันบอกว่าดิฉันรับประทานอาหาร เย็นแล้ว” จะอนุพันธ์เป็นประโยคว่า “ดิฉันรับประทานอาหารเย็นแล้วค่ะ” ถ้าเป็นคำกริยาว่า “เชื้อเชิญ” หรือ “คะยั้นคะยอ” ในประโยคกฤตกรรม เช่น “ดิฉันเชื้อเชิญ/คะยั้นคะยอให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้” ก็จะอนุพันธ์เป็นคำ ลงท้ายว่า “ซิ” หรือ “สิ” ถ้าเป็นคำกริยาว่า “สงสัย” จะอนุพันธ์เป็นคำ ลงท้ายว่า “ไหมนะ” แนวคิดในการมองว่าคำกริยาในประโยคกฤตกรรมสามารถบ่งชี้คำ ลงท้ายในประโยคที่อนุพันธ์เป็นประโยคในโครงสร้างผิวนั้น เป็นแนวคิดที่ แตกต่างไปจากที่สอนกันอยู่ในไวยากรณ์ไทยหรือในตำราไวยากรณ์ไทยที่นัก ภาษาศาสตร์ไทยเสนอ ผศ.โชษิตา มณีใส ภาคีสมาชิก บรรยายเรื่อง พินิจกาพย์พระไชย- สุริยาของสุนทรภู่ ความโดยสรุปว่า กาพย์พระไชยสุริยาเป็นผลงานเรื่อง เดียวของสุนทรภู่ที่แต่งเป็นคำกาพย์ ประเภทกลอนสวด มีเนื้อหาเป็นคำ