2707_9703

6 จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน ตัวที่ ๑ หรือตัวที่ ๒ เรียกอาการตรงนี้ว่า “นาคสะดุ้ง” แปที่อยู่ด้านล่างเปลี่ยน เป็น “แปหาญ” ถัดขึ้นไปจากนาคสะดุ้ง ตัวรวยจะเกี่ยวกระหวัดแป เรียกตัวรวย ตรงนี้ว่า “งวง” แปที่ถูกเกี่ยวจะเรียก “แปงวง” ตัวรวยจะทอดตัวขึ้นไปบนแป ลานและอกไก่ใต้ “พุงนกกระจาบ” ของช่อฟ้าตัวรวยดังกล่าวมาเรียกเป็น “ลำยอง” หรือ “ตัวลำยอง” ถ้ารวมทั้งหางหงส์หรือนาคเบือน นาคสะดุ้ง งวง ช่อฟ้า และใบระกา จะเรียกว่า “เครื่องลำยอง” ช่างโบราณทั้งช่างหลวง ช่างชาวบ้านหรือช่างพื้นถิ่นเป็นบุคคลที่น่ายกย่อง เพราะใช้ภูมิปัญญาในเชิงช่างปรับปรุงปั้นลมจากไม้ไผ่ไม้จริงจนเป็นรวยระกา เครื่องลำยองได้ทั้งความคงทน ความแข็งแรง พร้อมทั้งมีความสวยงามและมีศักดิ์ ทางสถาปัตยกรรมไทย จนทำให้สถาปัตยกรรมไทยเป็นศิลปวัฒนธรรมสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน รศ.มาลิทัต พรหมทัตตเวที ภาคีสมาชิก บรรยายเรื่อง น้ำท่วม ปัญหาโลก แตก ความโดยสรุปว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำ เมื่อถึง หน้าน้ำก็เป็นธรรมดาที่น้ำจากแม่น้ำจะไหลล้นฝั่งทำให้เกิดน้ำท่วม แต่ในสมัย ก่อนประชาชนจะปลูกบ้านใต้ถุนสูง และคูคลองต่าง ๆ ก็มีมากมายให้น้ำระบาย ออกสู่ทะเลได้ ทำให้ไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ผู้คนสามารถเดินทางได้อย่าง สะดวกโดยใช้เรือเป็นพาหนะ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของผู้ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ตามริมน้ำอยู่ แล้ว ความเจริญทางวัตถุทำให้วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไป มีการถมคูคลองเพื่อ สร้างถนนสำหรับรองรับรถยนต์ ทำให้ภาพของกรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยแม่น้ำ ลำคลองจนได้รับสมญาว่า เวนิสตะวันออก เลือนหายไป พื้นที่ที่เคยเป็นไร่นา สวนกลายเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม บ้านจัดสรร ตึกรามบ้านช่องที่สร้างขึ้น มาไม่ได้ดูว่าขวางทางน้ำหรือไม่ เมื่อเกิดภาวะต่าง ๆ ประดังกันเข้ามา คือ น้ำ เหนือหลาก น้ำทะเลหนุน และน้ำฝนตกกระหน่ำจึงทำให้น้ำท่วมได้ อุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยใน พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้นับว่ามีความรุนแรงและ ขยายวงกว้างมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต เพราะเริ่มท่วมตั้งแต่ภาคเหนือเรื่อยลง มาจนถึงกรุงเทพฯ ระหว่างทางก็ทำความเสียหายให้กับจังหวัดต่าง ๆ ที่หนัก ๆ สักการะเทพเจ้า พวกที่เหลือบนเรือต้องหาทางกลับไปบาบิโลเนียและตั้งบ้านเมือง สืบไป อีกตำนานหนึ่งซึ่งมาจากมหากาพย์ กิลกาเมช (Gilgamesh) อุตนาพิชติม (Utnapishtim) บรรพบุรุษผู้เป็นอมตะของกิลกาเมช ได้รับการเตือนจากเออาให้ ต่อเรือเพราะเหล่าเทพประชุมกันจะส่งน้ำมาท่วมโลกให้มนุษย์จมน้ำตาย อุตนาพิชติมต่อเรือด้วยเปลือกไม้และบรรทุกครอบครัว ผู้คน และสัตว์ต่าง ๆ ไว้ ในเรือ เกิดพายุฝนฟ้าตก ๖ วัน ๖ คืน เมื่อพายุสงบในวันที่ ๗ น้ำลดลง เรือไป ติดที่ยอดเขาไนเซอร์ (Niser) อุตนาพิชติมปล่อยนก ๓ ชนิดออกไปดูว่าน้ำแห้ง หรือยัง เมื่อนกกาน้ำไม่กลับมาแสดงว่าแผ่นดินแห้งแล้ว อุตนาพิชติมจึงทำการ สักการะเทพเจ้า เทพเอ็นลิล (Enlil) ได้ให้พรแก่อุตนาพิชติมและภรรยาให้เป็น อมตะเหมือนเทพเจ้า ในตำนานกรีก เทพซุส (Zeus) บันดาลให้น้ำท่วมโลกเนื่องจากมนุษย์ชั่ว ร้ายแต่ได้เตือนให้ดูเคเลียน (Deucalian) ซึ่งเป็นคนดี และเพอรา (Pyrrha) ภรรยาของเขาต่อเรือ เมื่อน้ำท่วม เรือไปเกยบนยอดเขาพาร์นัสซุส (Parnassus) เมื่อน้ำลด สองสามีภรรยาออกจากเรือและได้รับคำสั่งให้โยนกระดูกแม่ ซึ่งหมาย ถึงก้อนหิน ไปข้างหลัง เพราะแม่คือแม่ธรณี หินที่ดูเคเลียนโยนเกิดเป็นมนุษย์ ผู้ชาย ส่วนหินที่เพอราโยนเกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิงสืบเผ่าพันธุ์ต่อไป ตำนานจากพระคัมภีร์เก่า (Old Testament) ระบุว่า ยาห์เวห์ (Yahweh) คือพระเจ้าของชาวยิวเห็นว่ามนุษย์ชั่วร้ายจึงจะทำลายล้างทุกชีวิตในโลกด้วยน้ำ ท่วม ยกเว้นโนอาห์ (Noah) ผู้เป็นคนดีมีคุณธรรมซึ่งพระเจ้าสั่งให้ต่อเรือจากไม้ สนโกเฟอร์ และนำครอบครัวพร้อมทั้งสัตว์ทุกประเภททั้งตัวผู้ตัวเมียอย่างละคู่ไป ด้วย ยาห์เวห์บันดาลให้ฝนตก ๔๐ วัน ๔๐ คืน เกิดน้ำท่วมใหญ่ มีเพียงเรือของ โนอาห์เท่านั้นที่ลอยอยู่ได้ เมื่อน้ำลด เรือไปค้างอยู่บนยอดเขาอารารัต (Ararat) ในอาร์มีเนีย (Armenia) หลังจากส่งนกไปสำรวจและพบว่าน้ำแห้งแล้วโนอาห์จึง ออกจากเรือ สร้างแท่นบูชาและทำการสังเวยขอบคุณพระเจ้า ซึ่งยาห์เวห์ทำ สัญญากับโนอาห์ว่าจะไม่ให้น้ำท่วมโลกอีกตราบเท่าที่ยังมีสายรุ้งเป็นประจักษ์ พยาน ตำนานของพวกเคลต์ ชนชาติดั้งเดิมในเกาะอังกฤษกล่าวว่า พวกกอล (Gaul) อพยพเข้ามาสู่เกาะอังกฤษหลายครั้งด้วยกัน ครั้งแรกเกิดก่อนน้ำท่วม ใหญ่ โดยมีเซแซร์ (Cesair) บุตรสาวของบิท (Bith) ผู้เป็นบุตรของโนอาห์เป็น ผู้นำมา ทุกคนจมน้ำตายยกเว้นฟินทาน (Fintan) ผู้ซึ่งชีวิตอยู่ได้หลายยุคสมัยใน รูปของปลาแซมอน นกอินทรี และเหยี่ยว จะเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องใน พระคัมภีร์ไบเบิลเพราะพูดถึงโนอาห์ อาจเป็นเพราะอิทธิพลของคริสต์ศาสนาซึ่ง แพร่เข้าไปในหมู่เกาะอังกฤษ ทางอินเดียกล่าวว่าอสูรหัยครีพลอบขโมยคัมภีร์พระเวทไปจากพระโอษฐ์ของ พระพรหมขณะที่พระองค์บรรทมหลับ ทำให้เกิดน้ำท่วมโลก พระวิษณุหรือพระ นารายณ์จึงต้องอวตารลงมาช่วยกอบกู้โลกในอวตารปางแรกคือ มัสยาวตาร ซึ่งทรงอวตารเป็นปลาทองตัวน้อยมาขอให้พระมนูไววัสวัต ผู้มีหน้าที่สร้างมนุษย์ ช่วยปกป้องมันจากปลาตัวใหญ่ เมื่อพระมนูไววัสวัตนำปลาไปใส่ที่ใด ปลาก็จะโต ขึ้นเรื่อย ๆ จนคับที่นั้น ในที่สุดพระมนูไววัสวัตต้องนำปลาไปปล่อยในมหาสมุทร เมื่อน้ำท่วมโลก ปลาทองได้ใช้เขาของมันดึงเรือของพระมนูไววัสวัตขึ้นไปบนยอด สูงสุดของภูเขาหิมาลัย ปลาทองสังหารอสูรหัยครีพ เมื่อน้ำลดแล้วพระมนู- ไววัสวัตทำพิธีบำเพ็ญเพียรเพื่อบูชาปลา ของถวายมีนม เนยใส และนมเปรี้ยว ซึ่ง หลังจากเวลาผ่านไป ๑ ปี ได้กลายเป็นสาวสวยผู้บอกว่าเธอเป็นธิดาของพระมนู- ไววัสวัตและจะช่วยให้พระองค์มีลูกหลานมากมาย พระมนูไววัสวัตจึงได้เป็นผู้ให้ กำเนิดมนุษยชาติต่อมา ตำนานจีนมีว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ ผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ บันดาลให้น้ำท่วมโลก เพื่อลงโทษมนุษย์ให้ตายหมด แต่คุน (Khun) ซึ่งเป็นเทพที่มีเมตตาได้ขโมยดิน งอก (Swelling Earth) ซึ่งมีสรรพคุณในการงอกไม่มีที่สิ้นสุดจากเง็กเซียนฮ่องเต้ ไปสร้างเขื่อนปิดกั้นน้ำ เง็กเซียนฮ่องเต้โกรธมาก ส่งเพชฌฆาตแห่งสวรรค์ลงไป ฆ่าคุน ร่างกายของเขาไม่เน่าเปื่อย และหลังจากเวลาผ่านไป ๓ ปี เขาถูกผ่าท้อง และมีมังกรมีปีกและเขาโผล่ออกมาจากท้องของคุน ซึ่งก็คือหวู (Wu) ลูกชาย ของเขานั่นเอง ส่วนคุนเองกลายเป็นหมีหรือมังกรสีเหลืองกระโดดหายไปใน แม่น้ำ หวูได้ขออนุญาตเง็กเซียนฮ่องเต้นำดินงอกไปควบคุมน้ำท่วม เขาทำได้ สำเร็จจึงได้ชื่อว่าเป็นนายของน้ำท่วม ก็คือ นครสวรรค์ซึ่งเป็นชุมทางการคมนาคมและการค้าขายระหว่างภาคเหนือกับ ภาคกลาง และพระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นราชธานีเก่า มีโบราณสถานที่ได้ขึ้น ทะเบียนเป็นมรดกโลก และยังเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง น้ำท่วม ผ่านปทุมธานีจนเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ที่ผ่านมากรุงเทพฯ เคยเกิดน้ำท่วมหลายครั้ง ที่สำคัญและหนักมากคือ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ซึ่งน้ำท่วมสถานที่สำคัญ ๆ เช่น ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม จนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๒๖ น้ำ ท่วมเพราะเกิดพายุไต้ฝุ่นติด ๆ กันหลายลูก ทำให้ฝนตกหนัก เพื่อรักษากรุงเทพฯ ชั้นในซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจ ได้มีการผันน้ำไปทางด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ จากประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มีเกี่ยวกับน้ำท่วมทำให้ผู้เขียน สนใจศึกษาตำนานเกี่ยวกับน้ำท่วมโลก (Deluge) และพบว่าเรื่องเกี่ยวกับน้ำท่วม ใหญ่นั้นแพร่กระจายกว้างขวางแทบจะทั่วโลก เรื่องราวเหล่านี้คล้ายคลึงกันในรูป แบบโดยทั่วไป ในฐานะเป็นบันทึกเหตุการณ์ว่า ได้เคยมีน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ โดยพระเจ้าหรือเทพเจ้าเป็นผู้บันดาลให้เกิดขึ้นเป็นการลงโทษมนุษย์ซึ่งประพฤติ ตนเลวทราม ส่วนใหญ่นั้นทั้งโลกจะถูกน้ำท่วมผู้คนตายหมด แต่จะมีมนุษย์ผู้หนึ่ง กับครอบครัวของเขาพร้อมสัตว์จำนวนหนึ่งที่จะรอดชีวิตได้ ทั้งนี้เนื่องจากได้รับ การเตือนล่วงหน้า ทำให้เขาสามารถสร้างหรือจัดหาเรือหรือพาหนะที่จะพาให้ พ้นจากน้ำท่วมไปได้ หลังจากเวลาผ่านไปจะเป็นกี่วันกี่เดือนก็ตาม ความพิโรธ ของพระเจ้าหรือเทพเจ้าก็บรรเทาเบาบางลง น้ำเริ่มลดและแผ่นดินก็ปรากฏให้ เห็นอีกครั้งหนึ่ง มีมนุษย์และสัตว์สืบพืชพันธุ์ต่อไป รายละเอียดต่าง ๆ เท่านั้นที่ แตกต่างกันไปในแต่ละชาติ ตำนานจากเมโสโปเตเมียเล่าเรื่องของ ซิซุทรอส (Xisuthros) กษัตริย์องค์ที่ ๑๐ แห่งบาบิโลเนีย ซึ่งทรงพระสุบินว่า เทพเจ้าเออา (Ea) เทพแห่งท้องน้ำและ ความฉลาดได้ปรากฏแก่พระองค์และเตือนว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ซึ่งจะทำลายล้าง มนุษยชาติทั้งหมด แต่ซิซุทรอสจะปลอดภัยหากพระองค์ทำตามคำสั่งของเทพเจ้า โดยต่อเรือและนำสัตว์ ๔ เท้า ๒ เท้า รวมทั้งมนุษย์บรรทุกไปด้วย ซิซุทรอสทำ ตาม และเมื่อเกิดน้ำท่วมมีเพียงผู้ที่อยู่บนเรือเท่านั้นที่รอดไปได้โดยเรือไปติดอยู่ที่ ยอดเขา เมื่อน้ำลด ซิซุทรอสกับครอบครัวก็ออกจากเรือและสร้างแท่นบูชาเพื่อ

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=