1.มกราคม 2552.indd
7 ปีที่ ๑๙ ฉบับที่ ๒๑๒ เดือนมกราคม ๒๕๕๒ ‰ ¢ ª— ≠ À “ ¿ “ … “ ‰ ∑ ¬ ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วโลกแม้กระทั่งบริเวณแอมะซอน (Amazon) ซึ่งเป็นแหล่งป่าใหญ่ในอเมริกาใต้ตลอดจนป่าในแอฟริกา ประเทศไทย ที่พูดกันว่าสงวนป่าแต่ป่าก็ยังถูกทำลาย เช่น การทำลายป่าสักต้นน้ำยมในจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นป่าไม้สักที่ปลูกไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๓ ขณะนี้ ยังเหลืออยู่เท่าที่ดูภาพถ่ายจากดาวเทียมขณะนี้คงจะเหลืออยู่เพียงบริเวณรอบ ๆ เท่าที่เคยสัมผัสบ้านเรือนแถบนี้สร้างด้วยไม้สักจนเกิน จำเป็น ดังที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชปรารภว่าป่าไม้ในช่วงพระชนมายุของพระองค์มีแต่จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ มนุษย์ด้วยกันช่วยกันสร้างให้โลกร้อนด้วยความละโมภไม่ได้คิดถึงความพอเพียงดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕. ความไม่พอเพียง ลักษณะเช่นนี้เกิดมานานตั้งแต่มหายุคมีโซโซอิก สัตว์ที่เรียกว่าไดโนซอร์เป็นสัตว์เลื้อยคลานมีทั้งกินพืชเป็น อาหาร (ยกตัวอย่างภูเวียงโกซอรัสสิรินทรเน) ที่น่าสังเกตไดโนซอร์มีนิ้วเท้าด้านหน้าเพียง ๓ นิ้ว เช่น ไก่ และพวกที่กินสัตว์กันเอง เป็นอาหาร แต่สัตว์ไดโนซอร์ทำลายกันเอง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกิดขึ้นแล้วแต่ยังไม่เจริญมาก ในที่สุดสัตว์ประเภทไดไดโนซอร์บาง พวกต้องปรับตัวเอง อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้ว่าที่ไดโนซอร์สูญสิ้นกันไปเป็นเพราะความเป็นอยู่ที่ไม่พอเพียงและรังแกกันเองเช่น เดียวกับมนุษย์เลี้ยงลูกด้วยนมก็มีแนวโน้มรังแกขัดแย้งกันทำลายกันและกัน โลกจะเกิดอะไรขึ้นหากหลาย ๆ ประเทศสร้างระเบิด ปรมาณู ระเบิดไฮโดรเจนมาสังหารกัน สิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมจะหมดสิ้นไป สิ่งที่มีชีวิตอื่น ๆ จะหมดสิ้นไปด้วยหรือไม่ การสิ้นสุดของไดโนซอร์คือการทำลายกันเอง ทำให้บางพวกได้พยายามปรับปรุงตัวเองเป็นนกเป็นไก่ จะเห็นได้ชัดเจนว่าสัตว์ เหล่านี้มีนิ้วเท้าด้านหน้า ๓ นิ้วเช่นเดียวกับไดโนซอร์ มนุษย์เกิดขึ้นภายหลัง อยู่ในกลุ่มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งเกิดบนบก แต่บางสายพันธุ์หนีลงน้ำ อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้ ได้ พยายามปรับตัวเองจากการหลบหนีภัยแต่พบความไม่เหมาะสมเพราะถูกรบกวนจากพวกเลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่บนบกด้วยกัน ในที่สุด มนุษย์อย่างเราก็จะสิ้นสุดไปจากโลกเช่นเดียวกับไดโนซอร์หากไม่ระมัดระวังในการสร้างกิจกรรมที่ย้อนกลับมาเป็นภัยกับตนเองและ การต่อสู้กันเองด้วยอาวุธที่ร้ายแรงเช่นที่เคยเกิดกับประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว. ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริ∞ วิทยารั∞ ราชบัณ±ิต สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ประเภทสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม สาขาวิชาภูมิศาสตร์ ∂าม คำในรายการอาหาร คำว่า ข้าวผัดกระเพรา, ข้าวผัด กะเพรา, ข้าวผัดกระเพา คำว่า ปลากะพงทอด กระเทียม, ปลากระพงทอดกระเทียม คำว่า ต้มส้ม ปลากะ∫อก, ต้มส้มปลากระ∫อก คำใดเขียนถูกต้อง ตอ∫ คำในรายการอาหารที่เขียนถูกต้อง คือ ข้าวผัดกะเพรา, ปลากะพงทอดกระเทียม, ต้มส้มปลากระ∫อก ∂าม คำว่า ลูกนิมิตร, ลูกนิมิต, ผูกพัทธสีมา, ผูกสีมา คำใด เขียนถูกต้อง ตอ∫ คำที่เขียนถูกต้องคือ ลูกนิมิต, ผูกพัทธสีมา ∂าม คำว่า นานัปการ, นานั∫ประการ, นานัประการ คำใด เขียนถูกต้อง และมีความหมายแตกต่างจากคำว่า นานา ประการ หรือไม่อย่างไร ตอ∫ คำเขียนที่ถูกต้องคือ นานัปการ มีความหายเดียวกันกับ คำว่า นานาประการ ∂าม คำว่า ∂นน·จ้งวั≤นะ ถอดเป็นอักษรโรมันว่าอย่างไร ตอ∫ ∂นน·จ้งวั≤นะ ถอดเป็นอักษรโรมันตาม “หลักเกณฑ์ การถอดอักษร ไทยเป็นอักษร โ รมันแบบถ่ายเสียง พุทธศักราช ๒๕๔๒” ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ว่า Thanon Chaeng Watthana ∂าม ราชาศัพท์ว่า พระมÀากรุณาธิคุณ ใช้แก่สมเด็จพระเทพ- รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยหรือไม่ ตอ∫ คำว่า พระมÀากรุณาธิคุณ ใช้แก่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ∂าม ราชาศัพท์ว่า ทรงมีพระราชดำริ, ทรงมีพระราชดำรัส ใช้แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเจ้านายที่มีพระ อิสริยยศใดได้อีกบ้าง ตอ∫ คำว่า มีพระราชดำริ เป็นราชาศัพท์ของคำสามัญว่า คิด หรือ ดำริ ใช้แก่พระมหากษัตริย์ จนถึงสมเด็จพระเทพ- รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งใช้ว่า ทรงพระ ราชดำริ ก็ได้ แต่ไม่ใช้ว่า “ทรงมีพระราชดำริ” และคำ ว่า มีพระราชดำรัส เป็นคำกริยาราชาศัพท์ของคำว่า พูด ใช้แก่พระมหากษัตริย์ จนถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไม่ใช้ว่า “ทรงมีพระราชดำรัส” เพราะ มีพระราชดำรัส เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว จึงไม่ต้อง มีคำว่า “ทรง” นำหน้าอีก
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=