aw. JULY Rajbundit.indd
จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน “…ประเทศไทย เป็นประเทศที่อยู่มาเป็นเวลาช้านาน ได้ตกทอดมาเป็นสมบัติของทุกคนในปัจจุบัน จึงต้องช่วยกันทะนุถนอมให้ อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป แม้จะมีสภาพสถานการณ์ต่าง ๆ แวดล้อมซึ่งอันตรายและทั้งโลกก็ประสบปัญหาต่าง ๆ นานา ก็เชื่อได้ว่าพวกเรา จะสามารถไปรอดได้…” ความตอนหนึ่งจากกระแสพระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๓ “…เยาวชนที่กำลังเล่าเรียนวิชาการต่าง ๆ อยู่ในโรงเรียน จำเป็นจะต้องได้รับการฝึกหัดขัดเกลาทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างถูกต้องเหมาะสม พร้อมกันไปด้วย เพื่อให้ร่างกายและจิตใจที่ได้รับการฝึกหัดขัดเกลาให้แข็งแรง คล่องแคล่ว สะอาดหมดจด ซื่อสัตย์ สุจริต มีเมตตา และเป็นระเบียบแล้วนั้น ได้เป็นรากฐานอันมั่นคง สำหรับรองรับความรู้ความสามารถทางวิชาการต่อไป และจะ อุดหนุนส่งเสริมให้แต่ละคนสามารถตัดสินใจใช้วิทยาการทำประโยชน์ช่วยตน ช่วยส่วนรวม ได้อย่างถูกถ้วน…” ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท ในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามเนื่องในงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ วันพฤหัสบดีที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๕ “…ขอให้ปรารภประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นจุดหมายสำคัญ พยายามใช้สติอันตั้งมั่น พร้อมกับปัญญาอันกระจ่างแจ่มใส พิจารณาวินิจฉัยโดยละเอียดรอบคอบอยู่เสมอ ระวังตัวระวังใจอย่าให้เผลอตกเป็นทาสของความโลภทุจริต ทุกคนก็จะสามารถปฏิบัติ สรรพกิจการงานทุกอย่างได้โดยถูกต้องเที่ยงธรรม ให้สัมฤทธิ์ผลสมบูรณ์บริบูรณ์ตามเป้าหมาย บังเกิดประโยชน์สุขและความเจริญ วัฒนาแก่ประเทศชาติได้อย่างแท้จริง...” ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ทหารรักษาพระองค์ ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ วันพฤหัสบดีที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๕ “ความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำ ทั้งทางลึกแลกว้าง ประการหนึ่ง ความคิดเห็นที่เป็นสัมมาทิฐิ ถูกต้องด้วยเหตุผลหลักวิชาและความ ชอบธรรม ประการหนึ่ง ความสามารถในการปฏิบัติกิจการงานให้สำเร็จผลตรงตามจุดหมาย อีกประการหนึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญของ การทำงาน. ผู้ปฏิบัติราชการโดยอาศัยปัจจัยสามส่วนนี้โดยครบถ้วนสม่ำเสมอ จะประสบความสำเร็จและความเจริญรุ่งโรจน์ ทั้งจะ ทำให้ราชการและชาติบ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้าไปได้ด้วยความมั่นคงสวัสดี” ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน วันพุธที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ ภูพิงคราชนิเวศน์ วันที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ “…ความเจริญนั้นจะเกิดขึ้นได้ด้วยอาศัยปัจจัยสำคัญประกอบพร้อมกัน ๔ อย่าง. อย่างที่หนึ่ง ต้องมีคนดี มีปัญญา มีความรับผิด ชอบ เป็นผู้ประกอบการ. อย่างที่สองต้องมีวิทยาการที่ดีเป็นเครื่องใช้ประกอบการ. อย่างที่สาม ผู้ประกอบการต้องมีความวิริยะ อุตสาหะ และความเพ่งพินิจอย่างละเอียดรอบคอบในการทำงาน. อย่างที่สี่ ต้องรู้จักทำงานให้พอเหมาะ พอดี และพอควรแก่งานและ แก่ประโยชน์ที่พึงประสงค์…” ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=