รวมเล่ม

.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 292 มนุษย์บนเส้นทางสู่เสรีภาพของซาทร์ ให้แก่ทุกสิ่งโดยที่ตัวมนุษย์เองไม่มีวันที่จะถึงขั้นเต็มสมบูรณ์ได้เลย เพราะถ้าถึงขั้นนั้นแล้วก็จะไม่มี สถานการณ์ให้เลือกและจะกลายเป็นภาวะในตัวเอง นั่นคือกลายเป็นวัตถุหาใช่มนุษย์ ซึ่งเป็นการขัด แย้งและไม่มีวันเป็นไปได้ ภาวะในตัวเองย่อมไม่สามารถรู้ตัวเอง มีแต่ภาวะสำ �หรับตนเองเท่านั้นที่รู้ตัวเองได้ เพราะ มีความสำ �นึก ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงสามารถที่จะยอมรับหรือปฏิเสธสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างอิสรเสรี แต่การ ที่มนุษย์มีจิตหรือความสำ �นึกจึงจำ �เป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีและทำ �ให้ตนเองมีความสุขอันเป็นการรับผิด ชอบทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ความสุขและความทุกข์ล้วนเป็นสิ่งที่มาจากการกระทำ �ของมนุษย์ และ มนุษย์มีเสรีภาพอย่างเต็มที่ในการที่จะกระทำ �หรือไม่กระทำ �อะไรก็ได้เพราะในที่สุดแล้วจุดหมาย ปลายทางของมนุษย์คือ การเข้าสู่ความไม่มีอะไร ๙ ซาทร์ไม่เห็นด้วยกับนักปรัชญาบางคนที่แยกกายกับจิตออกจากกัน และไม่เห็นด้วยกับการ แยกผู้รู้กับสิ่งที่ถูกรู้ ดังแนวคิดของเรอเน เดการ์ต (René Descartes) ที่กล่าวว่า “ฉันคิด ฉันจึงมีอยู่” (Cogito ergo sum) ซึ่งซาทร์ไม่ยอมรับการใช้เหตุผลสำ �หรับรู้ภาวะและไม่เห็นด้วยกับการค้นหา สารัตถะของภาวะ เพราะมนุษย์สามารถรู้ภาวะได้โดยอาศัยวิธีปรากฏการณ์วิทยา ซึ่งทำ �ให้ท่าน พบว่าการมีอยู่ของตัวเรานั้นมีอยู่ก่อนการคิด เมื่อมีตัวฉันจึงมีการคิด ความมีอยู่จึงมีก่อนสารัตถะ (Existence precedes essence) ๑๐ เราอาจสรุปได้ว่าซาทร์ยอมรับความมีอยู่ของภาวะในฐานะเป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่โดยทั่วไป ซึ่งไม่จำ �เป็นต้องเป็นบ่อเกิดของสิ่งทั้งหลายทั้งปวงแต่เป็นสิ่งที่มีการเกิดและการดับสลายภาวะใน ทัศนะของซาทร์นั้นมีทั้งภาวะในตัวเองและภาวะสำ �หรับตนเอง ซึ่งเป็นความจริงทั้ง ๒ ด้านที่ต้องมีอยู่ อย่างสัมพันธ์กันถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันก็ตาม ๒. เสรีภาพในทัศนะของซาทร์นั้นสำ �คัญอย่างไร ดังได้กล่าวมาแล้วว่า มนุษย์ในทัศนะของซาทร์เป็นภาวะสำ �หรับตนเองซึ่งมีความสำ �นึก จึง สามารถตัดสินใจที่จะยอมรับหรือปฏิเสธอะไรต่าง ๆ ได้ และนี่เองที่ทำ �ให้เราเห็นว่ามนุษย์มีเสรีภาพ ซึ่งต่างกับวัตถุที่ไม่มีความสำ �นึก ไม่สามารถรู้ตัวเอง และไม่มีการมุ่งมั่นใด ๆ วัตถุเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามที่ เป็นและไม่เคยปรารถนาที่จะเป็นอะไรความสำ �นึกจึงเป็นตัวที่ทำ �ให้เราเห็นว่าวัตถุกับมนุษย์ต่างกัน อย่างไร แต่ความสำ �นึกเป็นสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ มีการเกิดและดับไปเป็นกระแส จึงเป็นความว่างเปล่า และถ้าความสำ �นึกเต็มสมบูรณ์แล้วเมื่อใดการเลือกก็จะไม่มี ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่ามนุษย์มีความ ๙ Ibid . pp. 98-119, 650. ๑๐ Ibid . p. 652.

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=