รวมเล่ม

.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 259 ปฐมาภรณ์ บุษปธำ �รง ๒. การจัดตั้งโรงเลี้ยงเด็กในสมัยรัชกาลที่ ๕ ตรอกโรงเลี้ยงเด็กเป็นชื่อตรอกเล็ก ๆ ตรอกหนึ่งที่ตำ �บลสวนมะลิ ถนนบำ �รุงเมือง ชื่อ ตรอกเนื่องมาแต่บริเวณตรอกเคยเป็นที่ตั้งโรงเลี้ยงเด็กของพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลี- ภิรมย์ เป็นพระอัครชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนามเดิมว่า หม่อมเจ้า หญิงสาย เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรศักดิ์ (พระองค์เจ้าลดาวัลย์) ต้น ราชสกุลลดาวัลย์ ทรงมีพระราชโอรส พระราชธิดา ๔ พระองค์ พระราชธิดาพระองค์ที่ ๒ พระนาม ว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านภาจรจำ �รัสศรี ประชวรพระโรคไข้รากสาดน้อย และสิ้นพระชนม์ เมื่อพระชนมายุเพียง ๕ พรรษา พระอัครชายาเธอทรงโศรกเศร้าอาลัยรักพระราชธิดายิ่งนักจึงทรง มีพระดำ �ริถึงเด็กอื่นที่ขาดการเลี้ยงดู เอาใจใส่รักษาพยาบาล อันอาจเนื่องมาจากความยากจนของ บิดามารดา ประกอบกับทรงมีพระประสงค์จะสร้างพระกุศลอุทิศแด่พระราชธิดาผู้ล่วงลับ จึงโปรด ให้ตั้งโรงเลี้ยงเด็กสำ �หรับช่วยเหลือและรับเลี้ยงเด็กที่ยากจนไม่มีผู้ดูแลเอาใจใส่ขึ้น ณ ตำ �บลสวนมะลิ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๒ โรงเลี้ยงเด็กแห่งนี้นับเป็นโรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกในประเทศไทยและนับเป็นต้นแบบ การดำ �เนินการของงานประชาสงเคราะห์ในปัจจุบัน มีเด็กชายหญิงเข้ามาอยู่ในความดูแลของโรง เลี้ยงเด็กแห่งนี้เป็นจำ �นวนมาก โปรดประทานนามเด็กทุกคนให้มีคำ �ว่า “บุญ” นำ �หน้า เช่น บุญนำ � บุญชวน เด็กเหล่านี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนความรู้ความ สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ ปัจจุบันคงเหลือแต่อนุสรณ์ที่แสดงว่าในอดีต ณ สถานที่นี้เคย เป็นที่ตั้งโรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกของประเทศไทย คือชื่อ “ตรอกโรงเลี้ยงเด็ก” (ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย, ๒๕๓๘; Faatz, 1985: 250-260) การจัดตั้งโรงเลี้ยงเด็กมีความเชื่อมโยงกับการศึกษาไทยในระดับอนุบาล ๑. การศึกษาก่อนมีโรงเรียนเกิดขึ้นที่วัด มีพระสงค์เป็นครู ไม่มีหลักสูตรการสอน ไม่มี กำ �หนดเวลาเรียน การศึกษาในยุคนี้จัดให้แก่เด็กผู้ชายเท่านั้น เด็กผู้หญิงอยู่ในรั้วในวัง นอกจากนี้ เด็กนักเรียนจำ �แนกได้เป็น ๓ ประเภท ได้แก่ พระ สามเณร นักเรียนที่มีฐานะเป็นศิษย์วัดจะเดิน ทางไปกลับ อายุของนักเรียนรับตั้งแต่ ๗-๘ ปีเป็นต้นไป วิธีการเรียนเป็นแบบท่องจำ � ไม่มีตำ �ราเรียน ไม่มีการบันทึกวิชาที่เรียนไว้เป็นหลักฐานหนังสือ (บอกเล่าปากต่อปาก) การจัดการศึกษาปฐมวัยก่อน มีระบบโรงเรียนเป็นดังนี้ มีการจัดการศึกษาให้กับบุตรของเจ้านายและเชื้อพระวงศ์ จัดการศึกษา สำ �หรับผู้มีฐานะดี (ข้าราชบริพาร) สำ �หรับบุคคลธรรมดาทั่วไปที่มีฐานะ เรียนที่วัดสำ �หรับเด็กผู้ชาย (บุษมาศ ไกรสร, ๒๕๕๕ : ๓๐-๓๒)

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=