รวมเล่ม
.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 256 สวัสดิการสังคมสำ �หรับเด็กในสังคมไทย การช่วยเหลือเกื้อกูลเด็กในสังคมไทยอดีต ในอดีต เมื่อเด็กประสบปัญหา สถาบันหลักที่ทำ �หน้าที่ช่วยเหลือเกื้อกูล คือ สถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นเสาหลักของความมั่นคงในการหล่อหลอมเด็ก หากครอบครัวมีความปรองดองและกลมเกลียว ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดในวงจรชีวิตครอบครัว อาจได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม ในสังคมไทย การศึกษาเกี่ยวกับเด็กและสวัสดิการสังคมไทยมีเอกสารไม่น้อยที่กล่าวถึงบทบาทรัฐ เอกชน และ ครัวเรือนในการหล่อหลอมและช่วยเหลือเด็ก ในที่นี้อ้างถึงกรณีของแฝดอิน-จันในสมัยรัชกาลที่ ๒ และการจัดตั้งโรงเลี้ยงเด็กในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพื่อเป็นการศึกษาการช่วยเหลือเกื้อกูลเด็กและการจัด สวัสดิการสังคมสำ �หรับเด็ก ๑. แฝดอิน-จันในสมัยรัชกาลที่ ๒ อิน-จันแฝดสยามมีตัวหน้าอกติดกันซึ่งในขณะนั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลประหลาดที่ยังไม่ เคยมีมาก่อน เพราะส่วนใหญ่เด็กที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้มักเสียชีวิตหรืออยู่ได้ไม่นาน แฝดอิน-จัน เกิด เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๕๔ ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาล ที่ ๒ ที่บ้านเรือนแพริมน้ำ �ปากคลองแม่กลอง ตำ �บลแหลมใหญ่ อำ �เภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม บิดาของแฝดอิน-จันชื่อนายทีอาย เป็นชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเกิดที่เมืองจีน ในสมัยราชวงศ์ชิงราชวงศ์สุดท้ายของจีน แล้วอพยพเข้ามาดินแดนสยามในสมัยของพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ เมื่อราว พ.ศ. ๒๓๓๓ โดยแรกเริ่มมาลงหลักปักฐาน ประกอบอาชีพประมงและค้าขายที่ปากคลอง (แม่น้ำ �) แม่กลอง ส่วนมารดาชื่อนางนก มีเชื้อสายจีน- มาเลย์ อิน-จัน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันรวม ๙ คน โดยแฝดอิน-จันเป็นลูกคนที่ ๕ และ ๖ ของพ่อ กับแม่ เมื่อแรกเกิดอิน-จันมีร่างกายสมประกอบทุกอย่าง เพียงแต่ที่หน้าอกมีแผ่นหนังเชื่อมยึดติด กันเป็นแถบกว้างประมาณ ๖ นิ้ว โดยอินจะเป็นคนที่อยู่ทางซ้ายของสายตาคนมอง ส่วนจันจะเป็น คนขวาของสายตาคนมอง การเกิดมาอย่างผิดปรกติของเด็กทั้งคู่ในสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก เพราะเชื่อกันว่าเด็กแฝดตัวติดกันเป็นกาลกิณี และอาจนำ �ปัญหามาสู่บ้านเมืองได้ (กนกวรรณ ดำ �รงค์กุล ๒๕๕๕ : ๕-๖)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=