รวมเล่ม

.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 202 มัชฌิมนิยม ชีวิตเหล่านั้นมีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ ในหมู่สัตว์ที่เรียกว่า มนุษย์ มีวิวัฒนาการมาจนกระทั่งปรากฏ เพศ เกิดครอบครัว ชุมชน บ้านเมือง สังคม และการปกครองบริหารตามลำ �ดับจนมาถึงมนุษย์โลกอยู่ เวลานี้ ทั้งโลกธรรมชาติและโลกมนุษย์ (ความเป็นอยู่มีอยู่ของมนุษย์) ก็จักวิวัฒน์หมุนเวียนเปลี่ยนไป วาระรอบต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้นยังไม่พึงพยากรณ์ แต่ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามเหตุและผลแห่งความ พอดีลงตัวในกฎไตรลักษณ์-กฎธรรมชาติ..” ๒๙ ธรรมชาติแท้ ๆ ของจิตมนุษย์มีสภาวะผ่องใส-กลาง ๆ ปรกติ (ปภสฺสรมิทํ จิตฺตํ) ต้องมาเศร้าหมอง ขุ่นมัว เพราะอวิชชา ตัณหา และอุปาทาน ครอบงำ �จิต มนุษย์ให้ค่อย ๆ หย่อนดุลยภาพ ปรกติภาพ และ ประกอบทุจริตกรรมตามวัฏจักรชีวิตมนุษย์ในภพ ชาติต่าง ๆ โดยพลังกรรมด้วยเจตนาของมนุษย์ แม้องค์ประกอบทางร่างกายสลายไป องค์ประกอบ ทางจิตก็ยังเกิดดับ ๆ สืบเนื่องต่อไปเรียกว่า สันตติในภพชาติใหม่ จิตมนุษย์นี้ไหลเลื่อนเคลื่อนไหวและ แปรเปลี่ยนทุกขณะ รวดเร็วยิ่งกว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงถึง ๑๗ เท่า ร่างกายกับจิตเป็นสิ่งคู่กันและอิง อาศัยกันได้ดุลยภาพกัน ให้เกิดเป็นชีวิตมนุษย์ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ทั้งคู่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน จิต มนุษย์จะสิ้นสุดโดยสิ้นเชิงเมื่อเป็นพระอรหันต์เข้าสู่ปรินิพพาน เพราะสิ้นอำ �นาจกรรมเกิดจากอวิชชา ตัณหา และอุปาทาน ๓๐ ๓.๓ มนุษย์ในอุดมคติ : มนุษย์ย่อมครองชีวิตและดำ �เนินวิถีชีวิตตามผลกรรมภายใต้ผลกระ ทบของโลกธรรม (โลกธมฺม) อันเป็นสมมติสัจจะประจำ �โลกมนุษย์ และโดยมนุษยบัญญัติคือ ลาภ- เสื่อมลาภ ยศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทา และ สุข-ทุกข์ แม้รับผลกระทบไม่เท่าเทียมกันก็ตาม มนุษย์ เหล่านี้มี ๒ จำ �พวก ๒ มิติ กำ �หนดจากระดับ คุณลักษณะ และ คุณสมบัติในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามทางสายกลางของ “ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้ชอบกับความประพฤติชอบ”: มีวิชาอันเป็นเลิศกับ ความประเสริฐทางความประพฤติ (วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน) เข้าถึงความจริงและความถูกต้องดีงามของ โลกและชีวิตประกอบกับถือเอาคุณค่าและปริมาณในการอุทิศตนบำ �เพ็ญคุณประโยชน์แก่ตนเองและ เพื่อนมนุษย์เป็นเกณฑ์วัด ไม่ได้แบ่งมนุษย์ออกเป็นชั้นวรรณะสืบทอดทางสายเลือดตามวิถีชีวิตแนว ปรัชญาพราหมณ์ หรือแบ่งตามพลังและปริมาณการครองและเสพเสวยกามสุขจากผลประโยชน์ทาง เศรษฐกิจแนววัตถุนิยม-บริโภคนิยม-กามสุขนิยม มนุษย์ ๒ จำ �พวกได้แก่ สามัญชนและอริยบุคคลทั้ง ๒ ครองชีวิตและดำ �เนินวิถีชีวิตสายกลางทั้งมิติส่วนตนและมิติส่วนรวม ๓๑ ๒๙ Vin.๔/๑๓/๑๘ ;สุตฺ. ทีฆ.๔/๓๕๓-๓๕๕. ๓๐ ศึกษาความละเอียดใน สุนทร ณ รังษี : พุทธปรัชญาเถรวาท หน้า ๕๐-๕๕ และ อดิศักดิ์ ทองบุญ : วิเคราะห์อภิปรัชญาในพระพุทธ- ศาสนา หน้า ๒๖-๓๔ และ ๑๒๘-๑๓๓. ๓๑ สุตฺ.ทีฆ.มหา ๑๐/๔/๓๕๕-๓๕๘ และ ๑๐/๑๒/๒๕๘-๓๖๐

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=