รวมเล่ม

.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 177 สิวลี ศิริไล เนื่องจากการพิจารณาปัญหาจริยธรรมที่เป็นสถานการณ์โต้แย้งระหว่างหลักจริยธรรมไม่ สามารถสรุปได้อย่างเป็นข้อยุติที่เป็นมาตรฐาน นักวิชาการฝ่ายสุขภาพได้เสนอโครงสร้างของการ พิจารณาดังนี้ ๑๔ หลักจริยธรรมสากลพื้นฐานของบริการสุขภาพ แต่เดิมจากอดีตหลักจริยธรรมที่แพทย์พึงถือปฏิบัติมาจากคำ �ปฏิญาณของฮิปโปกราตีส (the Hippocratic Oath) ซึ่งมีสาระสำ �คัญได้แก่ ความเมตตาสงสาร การทำ �ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แก่ผู้ป่วย การไม่ทำ �ในสิ่งที่เกิดโทษแก่ผู้ป่วย การรักษาความลับ การเข้าใจผู้ป่วยโดยองค์รวม การไม่ ทำ �แท้ง การรักษาภาพลักษณ์และมารยาทขณะปฏิบัติต่อผู้ป่วย ฯลฯ หลักจริยธรรมดังกล่าวนี้ ยังคง ถือปฏิบัติอยู่ของแพทย์ แม้ว่าบางเรื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมสอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น ปัจจุบันการทำ �แท้งหรือยุติการทำ �แท้งที่เป็นไปเพื่อสุขภาพของมารดาตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นไปเพื่อการรักษา (therapeutic abortion) ก็เป็นสิ่งที่ปฏิบัติในทางการแพทย์ ช่วงระยะเวลาหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมา มีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ที่กระทำ � ในมนุษย์เพื่อองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการรักษาประชาชนผู้เจ็บป่วย แต่ขณะเดียวกันที่เกิด ปัญหาที่ขัดต่อหลักจริยธรรม เช่น มีการใช้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลโรคจิตมาทดลองทางการแพทย์ มี ๑๔ . Aroska A. Mila. “Anatomy of an Ethical Dilemma: The Theary”. American Journal of Nursing (April, 1980) p. 658.

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=