รวมเล่ม
.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 171 สิวลี ศิริไล ผู้รับผิดชอบ กรณีของคาเรนเป็นตัวอย่างให้ถกเถียงกันมาจนถึงปัจจุบันว่าผู้ป่วยที่อยู่ในสภาพพืชผัก อาจสามารถหายใจได้เอง การตัดสินใจให้ยุติการใช้เครื่องช่วยหายจึงอาจผิดทั้งกฎหมายและขัดต่อ หลักศีลธรรม นอกจากนี้ ยังมีวิธีการที่เรียกว่าเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ (reproductive technologies) เพื่อช่วยให้คู่สมรสที่ไม่สามารถมีบุตรได้ตามธรรมชาติ สามารถมีบุตรได้ด้วยการปฏิสนธิทาง วิทยาศาสตร์ วิธีการที่รู้จักกันทั่วไปในสังคมคือการปฏิสนธิในหลอดแก้วหรือไอวีเอฟ (In Vitro Fertilization _ IVF) โดยแพทย์นำ �ไข่จากหญิงผู้เป็นภรรยาแล้วนำ �เชื้ออสุจิจากฝ่ายสามีมาผสมใน จานแก้ว (petri-dish) หลังจากนั้นนำ �ไปไว้ในหลอดแก้วใช้กระบวนการทางเคมีช่วยจนเกิดเป็นตัวอ่อน (embryo) แพทย์จะเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงฉีดกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายภรรยาเพื่อให้ตัวอ่อน เจริญเติบโตตามธรรมชาติจนคลอดได้บุตรตามความต้องการ ประเด็นจริยธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ ตัวอ่อนที่เหลือจากการปฏิสนธิในหลอดแก้วจะทำ �อย่างไร นำ �ไปใช้ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อความรู้ใหม่ได้หรือไม่ หรือถ้าจะทำ �ลายทิ้งจะถือว่าเป็นการทำ �ลายชีวิตมนุษย์หรือไม่ ๘ ประเด็น เหล่านี้เป็นที่ถกเถียงกันมาตลอด ยิ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ประเด็นปัญหาใหม่ ๆ ก็จะเกิดขึ้นท้าทายความคิดทางจริยศาสตร์ ศาสนา และกฎหมาย การทบทวนความคิดทางจริยศาสตร์ ใน ค.ศ. ๑๙๕๔ โจเซฟ ฟรานซิส เฟลตเชอร์ (Joseph Francis Fletcher ค.ศ. ๑๙๐๕ _ ๑๙๙๑) อดีตนักเทววิทยาอเมริกันในกลุ่มอิพิสโคพอล (Episcopalian theologian) แห่งนิกายแองกลิคัน (Church of Anglican) ในสหรัฐอเมริกา ได้เขียนหนังสือ Moral and Medicine เนื้อหากล่าวถึง ประเด็นจริยธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากความเจริญก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้วิธี การพิจารณาประเด็นเหล่านี้ จากแนวความคิดทางทฤษฎีจริยศาสตร์แทนการใช้ความเชื่อและหลัก คำ �สอนของศาสนาคริสต์ เฟลตเชอร์นำ �ทฤษฏีประโยชน์นิยม (utilitarianism) ซึ่งถือเอาผลของการ กระทำ �ที่ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลแก่คนจำ �นวนมากมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินว่าสิ่งใด ควรทำ � สิ่งใดไม่ควรทำ �ในการให้บริการทางการแพทย์ ความคิดของเฟลตเชอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ ความสัมพันธ์ระหว่างจริยศาสตร์กับปัญหาจริยธรรมในบริการทางการแพทย์ ๙ ภายหลังเมื่อเกิดคำ �ว่า ชีวจริยศาสตร์ (Bioethics) เฟลตเชอร์ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ �ของชีวจริยศาสตร์ ๘ Arras D. John, Steinbock. Ethical Issues in Modern Medicine . 4 th. ed. (Mountain View, California: Mayfield Publishing Company, 1995,) pp. 436-437. ๙ Kuhse Helga, Singer Peter. op.cit. p. 7.
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=