รวมเล่ม

.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๗ 103 จตุรนต์ ถิระวัฒน์ มาตรา ๘ ทวิ เปลี่ยนแปลงระบบการตรวจเยี่ยมเรือโดยเพิ่มเติมแนวทางเพื่อความร่วมมือ และกระบวนการที่ต้องทำ � หากต้องการตรวจเยี่ยมเรือซึ่งชักธงของรัฐภาคีอื่นนอกทะเลอาณาเขตของ รัฐอื่นใดเนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่า เรือหรือบุคคลบนเรือได้เกี่ยวข้องหรือกำ �ลังจะเกี่ยวข้องกับ การกระทำ �ผิดตามพิธีสารฯ รัฐภาคีเจ้าของสัญชาติเรือมีเวลา ๔ ชั่วโมงหลังจากได้รับคำ �เตือนเกี่ยวกับ ความประสงค์ที่จะตรวจเยี่ยมเรือ ว่าจะปฏิเสธหรือยินยอมอย่างชัดแจ้ง หากปราศจากคำ �ตอบใด ๆ รัฐที่ร้องขอจะได้รับอนุญาตให้ตรวจเยี่ยมเรือได้ ยิ่งกว่านั้นรัฐอาจให้ความยินยอมโดยปริยายโดยการ แจ้งเลขาธิการขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศหรือไอเอ็มโอ (International Maritime Orga- nization-IMO) นอกจากนี้ ยังมีสนธิสัญญาอื่น ๆ อีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามโจรสลัดใน ปัจจุบัน กล่าวคือ อนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการต่อต้านการจับตัวประกัน (International Convention Against the Taking of Hostages) ค.ศ. ๑๙๗๙ ซึ่งทำ �ให้โจรสลัดที่ยึดเรือและจับ ลูกเรือเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นอาชญากรภายใต้อนุสัญญาฉบับนี้ ดังนั้น ผู้ใดซึ่งกระทำ �หรือ พยายามกระทำ �การดังกล่าว หรือเข้าร่วมในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดของบุคคลใดซึ่งกระทำ �หรือพยายาม กระทำ �การจับตัวประกันจะต้องถูกดำ �เนินคดีหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดนโดยรัฐภาคีของอนุสัญญาฯ เมื่อผู้ ถูกกล่าวหาอยู่ในดินแดนหรือทะเลอาณาเขตของรัฐภาคี สำ �หรับอนุสัญญาระหว่างประเทศเพื่อการปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินสำ �หรับ การก่อการร้าย (International Convention for the Suppression of the Financing of Terrorism) ค.ศ. ๑๙๙๙ ถือว่าเป็นการกระทำ �ผิดในกรณีที่บุคคลไม่ว่าโดยวิธีการใดทั้งทางอ้อมและ ทางตรงอย่างผิดกฎหมายและเจตนาร้าย จัดหาหรือรวบรวมกองทุนโดยมีเจตนาให้นำ �ไปใช้ไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วนเพื่อกระทำ �ความผิดตามสนธิสัญญาต่าง ๆ ที่ปรากฏในรายการภาคผนวกของ อนุสัญญาฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงการจับเป็นตัวประกันด้วย ดังนั้น บุคคลเหล่านี้ต้องถูกดำ �เนินคดีหรือ มิฉะนั้นก็ต้องถูกส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนกองทุนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งรายได้ทั้งหลายของกองทุนก็ ต้องถูกยึดและริบโดยรัฐภาคีของอนุสัญญาฯ เว้นแต่จะไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องฉบับใด ฉบับหนึ่ง ส่วนอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยอาชญากรรมที่จัดตั้งขึ้นอันมีลักษณะข้ามชาติ (United Nations Convention on Transnational Organized Crime-UNCTOC) ค.ศ. ๒๐๐๐ ก็ให้ถือเป็นอาชญากรรมสำ �หรับการเข้าร่วมในกลุ่มอาชญากรรมที่จัดตั้งเป็นองค์กรหรือการฟอก