ปี-39-ฉบับที่-3
พระบาทสมเด็ จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หั วและศิ ลปะสมั ยใหม่ 86 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 39 No. 3 Jul-Sep 2014 ศิลปินที่มีบทบาท เช่น มักซ์ เบคมันน์ (Max Beckmann) แอ็ร์นส์ท ลุดวิก เคียร์ชเนอร์ (Ernst Ludwig Kirchner) ฌอร์ช รูโอ (Georges Rouault) วาซิลี คันดินสกี (Wassili Kandinsky) ศิลปะคติโฟวิสต์ (fauvism) ที่เริ่มเฟื่องฟูขึ้นในฝรั่งเศส นักวิจารณ์ที่ต่อต้านความรุนแรงในการแสดงออกด้วยสีสันจัดจ้าน ของศิลปินกลุ่มนี้ เรียกขานว่า “ศิลปะสัตว์ป่า” ศิลปินกลุ่มนี้แสดงออกทางจิตรกรรมด้วยสีสันและสีสรรพ์ ที่สดใส สีที่ตัดหรือขัดแย้งกันอย่างรุนแรง แสดงออกจากโลกภายนอก อ๊องรี มาติสส์ (Henri Matisse) ผู้น� ำศิลปินกลุ่มนี้เคยกล่าวว่า “สีคือการแสดงออก” ต่างนิยมเขียนภาพคน ทิวทัศน์ ศิลปินที่มีบทบาทในกลุ่มนี้ เช่น มาติสส์ อองเดร เดอแรง (Andre Derain), ราอูล ดูฟี (Raoul Dufy) โปรดพิจารณาพระราชหัตถเลขาไกลบ้านของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงวิพากษ์วิจารณ์ศิลปะสมัยใหม่ ดังตัวอย่างพระราชนิพนธ์บางตอนดังนี้ “เวลาบ่าย ๕ โมงจะมีรถหลวงไปรับที่เอกสหิบิเชนอะไร ๆ ยืดยาวต่าง ๆ...เอกสหิบิเชนนั้น ได้ตั้งอยู่กลางเมืองมีหอสูงของเดิมอยู่กลาง แล้วท� ำเปนสวนรอบ แต่งปลูกไม้สี มีปิกเชอแกละรีท� ำขึ้นใหม่ ใช้ศิลามาก กระไดกลางท� ำด้วยศิลาแท่งใหญ่ ๆ ที่จริงงามดีแต่แลดูอ้วน ๆ หนัก ๆ รูปพรรณสัณฐานนั้น ก็เปนสามขาตั้งทั้งรูปหล่อรูปศิลาแลรูปภาพ มีรูปหล่อที่ดี ๆ พอดูได้อยู่บ้าง แต่รูปภาพนั้นเต็มที ที่เปน รูปเขียนอย่างเก่าอยู่ไม่เท่าใด นอกนั้นเปนอย่างโมเดอนซึ่งเหลือที่จะเล่าว่ารูปอะไรเป็นอย่างไร มันหนัก ขึ้นไปกว่าเมืองเวนิศ บางแผ่นน�้ ำยาเหมือนรูปหอยแครงหยอดเกาะ ๆ กันไปเปนรูปพร่า ๆ บางแห่งเหมือน เอาเส้นแมกกาโรนีย้อมสีแดงสีเขียวสีเหลืองกองไว้ตามแต่จะนึกว่ารูปอะไร ยังมีอิกอย่างหนึ่งนั้นเปน ดินสอด� ำเส้นเดียวลากเหมือนกันกับเด็ก ๆ มันเขียนเล่นที่เมรุฤๅที่ศาลาวัด สับเยกต์ที่จะเขียนนั้นคงจะหา ให้น่าเกลียดที่สุดตามที่จะหาได้ ฤๅแกล้งเขียนให้มันบ้า ๆ เช่นกับถ้าจะเขียนรูปผู้หญิงคงจะหาที่หน้าตา เสยะฟันเขยินตาลึกท้องคอด คล้าย ๆ กับเขียนเปรตหลังโบสถ์ ถึงเขียนสีก็เลือกเอาสับเยกต์ที่เลวที่สุด ที่ไม่ดีเปนการเก๋ สีก็ใช้สีที่แปร๋ปร๋าเงาก็ไม่ต้องมี ระบายก็ไม่ต้องระบายป้ายลงไปเฉย ๆ เส้นก็ไม่ต้อง เดินดู ๆ ก็เปนที่ท้อใจ ค� ำที่ว่าอาตนั้นกลายเปนไม่มีอาตในนั้นสักนิดเดียว จะว่าเหมือนก็ไม่เหมือน จะว่างาม ก็ไม่งาม ถ้าจะเขียนให้เหมือนก็เลือกเอาเหมือนที่อย่างไม่ดีที่สุด คือหมอกมัวมืดควันกระหลบ ถ้าจะแปร๋ ก็พระอาทิตย์เปนสีทับทิม สีม่วง ต้นไม้สีม่วง พื้นแผ่นดินเปล่า ๆ สีเขียวอะไรโสกกระโดกต่าง ๆ เช่นนี้ ถ้าไม่ชมฤๅติก็ว่าดูไม่เป็น แต่ได้ลองสนทนากับคนธรรมดาที่ไม่ได้อวดดีว่าเปนช่างดูไม่ได้สักคนเดียว จนนึกวิตกว่าถ้าช่างเขาเห็นดีกันไปเสียเช่นนี้หมดนานไปรูปเขียนจะหาซื้อไม่ได้ จะกลายเปนแต่รูปป้าย รูปปารูปเปะฤๅรูปขีดเท่านั้น อ้ายรูปเช่นนี้มันมีแต่เมื่อคราวก่อน ๑๐ ปีมาแล้วเดี๋ยวนี้มากขึ้นกว่าก่อน สักสิบเท่า นี่เกิดเล่นอะไรกันขึ้นเช่นนี้ มาอุ่นใจอยู่อย่างหนึ่งที่เขียนกันมาถึง ๑๐ ปีแล้ว ปีหนึ่งก็มาก ๆ มันหายไปไหนหมด ไม่เห็นใครแขวนที่แห่งใดปะไนยตาเลยสักแผ่นเดียวน่าจะขายไม่ได้ จะเขียนมา แขวนสะลองแล้วก็เลยเจ้าของเอากลับไป ได้ยินพูดด้วยซ�้ ำไปว่าเปนรูปชนิดที่ส� ำหรับแขวนสะลองไม่ใช้
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=