ปี-39-ฉบับที่-3

71 นนทิ วรรธน์ จั นทนะผะลิ น วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ ที่ใช้ความหมายของเทคนิควิธีการและรูปสัญลักษณ์มาเป็นเนื้อหาในการสื่อความหมายได้อย่างกลมกลืน และมีเอกภาพ ผลงานชิ้นที่ ๔ เป็นผลงานของศิลปินชาวรัสเซีย ชื่อ อ็องตวน เพฟเนอร์ (Antoine Pevsner) (รูปที่ ๖) เป็นผลงานนามธรรมบริสุทธิ์ เป็นลักษณะโครงสร้างที่ไม่มีพื้นผิว สร้างรูปทรงด้วยการใช้เส้น ประกอบกันเป็นโครงสร้างหลัก แล้วเชื่อมโยงโครงสร้างเหล่านั้นด้วยเส้นที่ขึงเรียงกันจนเป็นแผ่นระนาบ บิดพลิ้วไปตามโครงสร้าง ท� ำให้เกิดรูปทรงภายในและรูปทรงภายนอก รวมทั้งที่ว่างภายในและภายนอก ที่มีความประสานเชื่อมโยงผูกพันกันอย่างกลมกลืนงดงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวิธีการสร้างรูปทรงของ เพฟเนอร์ ที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตาม ประติมากรที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ กาโบ, เฮปเวิร์ท และ เพฟเนอร์ ล้วนเป็น ประติมากรที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ถูกจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของการสร้างสรรค์ประติมากรรม และจากจ� ำนวนผู้เข้าร่วมส่งผลงานจากทั่วโลก จ� ำนวน ๓,๕๐๐ คน จึงนับได้ว่าการประกวดอนุสาวรีย์ ในหัวข้อ “นักโทษการเมืองที่ไม่มีใครรู้จัก” จึงเป็นการประกวดในระดับโลกอย่างแท้จริง และผลงานที่ ส่งเข้าประกวดส่วนใหญ่เป็นผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งส่วนใหญ่สร้างสรรค์ด้วยรูปทรงนามธรรม การ ประกวดครั้งนี้จึงถือเป็นมิติใหม่ของการสร้างสรรค์อนุสาวรีย์ในรูปแบบศิลปะร่วมสมัยที่แสดงออกด้วย รูปทรงนามธรรม ซึ่งก่อนหน้านั้นนิยมใช้รูปแบบสัจนิยม (realistic) และการใช้รูปคนเป็นหลัก สิ่งที่น่าภูมิใจส� ำหรับประเทศไทยอย่างยิ่งคือที่การประกวดนานาชาติในครั้งนี้มีศิลปินไทย ส่งผลงานเข้าประกวดด้วย และยิ่งกว่านั้นยังได้รับรางวัลชมเชยในงานนี้ด้วย ประติมากรผู้นั้นคือ ผู้ช่วย ศาสตราจารย์เขียน ยิ้มศิริ (รูปที่ ๗) ประติมากรผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ศิลปะร่วมสมัย ของประเทศไทย ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ ที่ต� ำบลบ้านช่างหล่อ ซึ่งเป็นย่านงานปั้นหล่อที่ส� ำคัญที่สุดใน ยุคนั้น พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้เข้าศึกษาศิลปะในโรงเรียนประณีตศิลปกรรม กรมศิลปากร หลักสูตร ๔ ปี โดยมี ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ประติมากรผู้ยิ่งใหญ่จากนครฟลอเรนซ์ อิตาลี และผู้บุกเบิกศิลปะสมัยใหม่ ในประเทศไทยเป็นผู้อ� ำนวยการสอน ท่านจบการศึกษาทางสาขาประติมากรรม พ.ศ. ๒๔๘๕ เข้ารับ ราชการที่แผนกหัตถศิลป์ ในกรมศิลปากร ต่อมา พ.ศ. ๒๔๙๓ ย้ายไปรับราชการที่กองโบราณคดี และ เมื่อศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้ริเริ่มให้มีการจัดการประกวดงานศิลปกรรมแห่งชาติขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๙๒ ท่านก็ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๑ เหรียญทองในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑ ด้วย ผลงานประติมากรรม ชื่อ “ขลุ่ยทิพย์” (รูปที่ ๘) พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๑ เหรียญ ทองในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒ ด้วยผลงานประติมากรรม ชื่อ “ดินแดนแห่งความยิ้มแย้ม” (รูปที่ ๙) พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงินในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=