ปี-39-ฉบับที่-3
อิ ทธิ พลของพระจั นทร์กั บนาฏศิ ลป์ไทย 302 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 39 No. 3 Jul-Sep 2014 บทร้องแม่บทใหญ่ เทพประนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาช้านางนอน ผาลาเพียงไหล่พิสมัยเรียงหมอน กังหันร่อนแขกเต้าเข้ารัง กระต่ายชม จันทร์จันทร์ทรงกลด พระรถโยนสารมารกลับหลัง เยื้องกรายฉุยฉายเข้าวัง มังกรเลียบถ�้ ำมุจลินท์ กินนรร� ำซ�้ ำช้างประสานงา ท่าพระรามาโก่งศิลป์ ภมรเคล้ามัจฉาชมวาริน หลงใหลได้สิ้นหงส์ลินลา ท่าสิงโตเล่นหางนางกล่อมตัว ร� ำยั่วชักแป้งผัดหน้า ลมพัดยอดตองบังสุริยา เหราเล่นน�้ ำบัวชูฝัก นาคาม้วนหางกวางเดินดง พระนารายณ์ฤทธิรงค์ขว้างจักร ช้างหว่านหญ้าหนุมานผลาญยักษ์ พระลักษมณ์แผลงอิทธิ์ฤทธี กินนรฟ้อนฝูงยูงฟ้อนหาง ขัดจางนางท่านายสารถี ตระเวนเวหาขี่ม้าตีคลี ตีโทนโยนทับงูขว้างค้อน ร� ำกระบี่สี่ท่าจีนสาวไส้ ท่าชะนีร่ายไม้ทิ้งขอน เมขลาล่อแก้วกลางอัมพร กินนรเลียบถ�้ ำหนังหน้าไฟ ท่าเสือท� ำลายห้างช้างท� ำลายโรง โจงกระเบนตีเหล็กแทงวิไสย กลดสุเมรุเครือวัลย์พันไม้ ประไลยวาตยั้งคิดประดิษฐ์ท� ำ กระหวัดเกล้าขี่ม้าเลียบค่าย กระต่ายต้องแร้วแคล้วถ�้ ำ ชักซอสามสายย้ายล� ำน� ำ เป็นแบบร� ำแต่ก่อนที่มีมาฯ บทบาทของพระจันทร์ในการเปรียบเทียบความงามของสตรี ๑. การแสดงนาฏศิลป์ไทยชุดร� ำวงมาตรฐาน ร� ำวงมาตรฐานเป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจากร� ำโทน เป็นการร� ำและร้องของชาวบ้าน ซึ่ง จะมีผู้ร� ำทั้งชายและหญิง ร� ำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ๆ ครกต� ำข้าวที่วางคว�่ ำไว้ หรือไม่ก็ร� ำกันเป็นวงกลม โดยมี โทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการร� ำและร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนก� ำหนด ไว้ คงเป็นการร� ำและร้องง่าย ๆ มุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นส� ำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวน ยาเหล เพลงหล่อจริงนะดารา เพลงตามองตา
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=