ปี-39-ฉบับที่-3
อิ ทธิ พลของพระจั นทร์กั บนาฏศิ ลป์ไทย 296 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 39 No. 3 Jul-Sep 2014 - ร้องเพลงต้นวรเชษฐ์ - แล้วมีวาจาประกาศิต ด้วยอ� ำนาจเทวฤทธิ์ยิ่งใหญ่ อันเทเวศร์ดวงแดงเป็นแสงไฟ ให้ชื่อสุริยะพระอาทิตย์ หน้าที่เที่ยวตระเวนจักรวาล เวลาทิวากาลนั้นเป็นสิทธิ์ แสงรุ่งโรจน์โชติช่วงชวลิต ช่วยชีวิตโลกธาตุเป็นอัตรา อันดวงไฟนวลขาวพราวขจร ชื่อ จันทรโสมเทพ วิเลขา ท� ำหน้าที่ส่องสว่างกระจ่างฟ้า เมื่อเวลาราตรีที่มืดมน ที่ใดเห็นดวงอาทิตย์ทั่วกัน ให้เรียกว่ากลางวันทุกแห่งหน ที่ใดเห็นดวงจันทร์อันมงคล เรียกกลางคืนชื่นกมลดลนิทรา - ร้องเพลงบรเทศ - ครั้นเสร็จเทวาประกาศิต มีจิตแสนโสมนัสสา ตรัสชวนเทพบุตรนางฟ้า กลับมาทิพย์สถานพิมานชัย - ปี่พาทย์ท� ำเพลงเชิด - (พระอิศวรร� ำน� ำเทวดา นางฟ้าหายเข้าไป) ๒. การแสดงโขน ชุดรามาวตาร เนื้อเรื่องย่อโดยสังเขป เมื่อพระนารายณ์ทรงให้สัตย์สาบานไว้แก่นนทุกนั้น นนทุกก็ผูกจิตอาฆาต พระนารายณ์ ว่าจะต้องตามล้างผลาญกันไปในชาติหน้า ครั้นนนทุกตายไปจึงมาบังเกิดเป็นทศกัณฐ์ เจ้าเมืองลงกา มีถึงสิบเศียรยี่สิบกร มีฤทธากายสิทธิ์ สามารถเหาะเหินเดินอากาศและด� ำดินได้ พร้อมทั้ง มีอาวุธอันศักดิ์สิทธิ์มากมาย สมตามค� ำสาบานไว้ต่อกัน ปวงสรรพสัตว์ทั้งหลายเกรงว่าชาวโลกจะเดือด ร้อน เพราะทศกัณฐ์นั้นเป็นพาล จึงได้นิมนต์ให้พระฤษีกไลโกฏเป็นผู้น� ำเหล่าฤษีทั้งหลายขึ้นเฝ้าพระอิศวร เพื่ออัญเชิญให้พระนารายณ์อวตารไปปราบทศกัณฐ์ตามประกาศิตที่มีไว้ต่อกัน ณ เบื้องนั้น เหล่าเทพเทวดา ทั้งหลายต่างอาสาที่จะไปเป็นพลพระอวตาร เพื่อตามไปช่วยผลาญพวกยักษ์ ต่างจึงจุติมาเป็นพลลิงเพื่อรอรับ พระนารายณ์ที่จะอวตารมาเป็นพระรามต่อไป ดังตัวอย่างบทโขนกรมศิลปากรปรับปรุงเพื่อจัดแสดง ดังนี้ - ปี่พาทย์ท� ำเพลงวา - - ฉากเทวสภา - (พระอิศวร พระอุมา พระนารายณ์ พระลักษมี พระพรหม พระสุรัสวดี ประทับพระแท่น) (เทวดา นางฟ้า ท้าวโลกบาล เทพนพเคราะห์ หมอบเฝ้าตามที่)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=