ปี-39-ฉบับที่-3
295 ไพโรจน์ ทองค� ำสุก วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ - ปี่พาทย์ท� ำเพลงรัวลา ๑ - - ดับไฟมืด - (เทวดานางฟ้าตกใจวิ่งสับสนกู่ก้องร้องหากัน) - ปี่พาทย์ท� ำเพลงรัวลา ๒ - (พระอิศวรออกร� ำฉากบนโขดหินด้านข้าง เทวดาเข้าไปหมอบเฝ้า) (ใช้ไฟสปอตฉายจับพระอิศวร) - ร้องเพลงต้นเพลงฉิ่ง - เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา สมเพชอัปสรเทวา มาต้องอาเพศเหตุการณ์ พระเพ่งเล็งดูก็รู้ชัด จะบังเกิดสรรพสัตว์ในสงสาร แม้นปล่อยให้มืดมนอนธกาล คงเดือดร้อนร� ำคาญเป็นมั่นคง - ร้องเพลงเห่เชิดฉิ่ง - จึงเอาสี-หราชหกตัว มากลั้วให้ป่นจนเป็นผง ห่อด้วยผ้าแดงแต่งบรรจง แล้วจุ่มลงในน�้ ำอมฤต - ปี่พาทย์ท� ำเพลงรัวลา ๓ แล้วรัวท้ายปลูกต้นไม้ - (พระอิศวรเอาห่อผ้าแดงแสงแวววับ เสียงกัมปนาท) (พระอาทิตย์ดวงโตค่อยโผล่ขึ้น ครู่หนึ่งแล้วหายไป) - ดับไฟ - (ใช้ไฟสปอตจับพระอิศวร) - ร้องเพลงเชิดฉิ่ง - แล้วเอานางฟ้าสิบห้านาง ห่อร่างด้วยผ้าขาวกายสิทธิ์ ป่นด้วยศักดาวราฤทธิ์ นิมิตมนต์พลางขว้างไป - ปี่พาทย์ท� ำเพลงรัวดึกด� ำบรรพ์ - (พระอิศวรขว้างห่อผ้าขาวไปหลังโขดหิน) (เกิดแสงสีขาวนวลแวววับ) (เสียงกัมปนาท) (ดวงจันทร์ค่อยลอยขึ้นขอบฟ้า ครู่หนึ่งแล้วหายไป) (ผู้แสดงแต่งเป็นพระอาทิตย์กับพระจันทร์ออกมาเฝ้าพระอิศวรเพื่อรับค� ำสั่ง)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=