ปี-39-ฉบับที่-3

สุภาษิ ตศรี สวั สดิ์ : ค� ำสอนกุลบุตรผู้ศึ กษาในส� ำนั กสงฆ์ 256 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 39 No. 3 Jul-Sep 2014  จงอย่าเกียจคร้าน เกี่ยงกันล้างชาม มีโทษถูกตี ชาวบ้านรู้จะรังเกียจ สึกออกไปไม่มีใครอยาก ให้ลูกสาว ดังข้อความว่า ตีเณรโค่งก่อน ใครสั่งใครสอน มึงต๋งล้างชาม มึงเปนผู้ใหญ่ ท� ำไว้เห็นงาม อ้ายน้อยพลอยตาม ตีเสียด้วยกัน ใครท� ำเช่นนี้ ดูหน้าบัดสี เปนที่เย้ยหยัน รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั้น คี่เกียดครันๆ จนชั้นล้างชาม แม้นชาวบ้านรู้ เขาจะลบหลู่ สาบหน้าตรานาม แม้นศึกออกไป รู้ในเรื่องความ ลูกสาวเขางาม เขาไม่แลเลย  จงอย่าพูดสอพลอชักน� ำพี่สาว ท� ำให้ภิกษุสงฆ์สึก เป็นบาปกรรมท� ำลายศาสนา เสียพี่สาวเปล่า ผู้ใหญ่รู้จะลงโทษ ดังข้อความว่า อย่าได้ท� ำฉาว ยกยอพี่สาว ให้สงฆ์ใฝ่ฝัน เจ้ากูจะฮึก ศึกออกไม่ทัน วานเขียนพัดจันทน์ ให้พี่สาวตน พูดพลอดสอพลอ เหมือนหนึ่งนกต่อ ทีล่อทีชน เอาโน่นชนนี้ ซุกซี้ซุกซน ตุลีตุลน แหลาะแหละและเล็ม ไปบ้านทีไร เอาเรื่องวัดไป พูดต่อแต้มเต็ม ว่าสงฆ์องค์นั้น รักษ์ฉันกวดเข้ม ท่านพูดและเล็ม ถึงพี่ทุกวัน แล้วกลับมาวัด เอาเรื่องกระหัด มาพูดเศกสรรค์ พี่ฉันเขาว่า สั่งมากับฉัน ฃอไม้สอยอัน หนึ่งนั้นส้นงา เช่นนี้อย่าท� ำ ไม่ดีมีกรรม ท� ำลายศาสนา จะเปนราคี ชั่วนี้ชั่วหน้า ฉวยปะชะตา ทังสองต้องกัน พระเณรจะศึก ไปชมสมนึก เหมือนใจใฝ่ฝัน ไม่ต้องขอสู่ ลอบชู้หากัน ขนมขันหมากนั้น เจ้าชวดกินเอง เสียพี่สาวเปล่า ไม่ได้เบี้ยเขา เพราะเจ้าแสนเพลง ครูรู้คดี วิ่งหนีปะเลง เขาไปบ้านเอง แม่ซ�้ ำส� ำทับ เขาส่งไปให้ ตายามผู้ใหญ่ แกไปกินตับ เช่นนี้อย่าท� ำ ควรจ� ำค� ำนับ อย่าสอนสับปลับ สอพลอส่อความ

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=