ปี-39-ฉบับที่-3

255 โชษิ ตา มณี ใส วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ แต่เพียงด่าธอ ให้พอรั้งรา ปะเขาเมตตา จะพากันนุง ท� ำผิดสิกขา เพื่อนคิดอิดฉา ไปว่าในกรุง เขาจับตัวไป หายใจครึ่งพุง ลงทอดตัวผลุง น�้ ำตากระเดน ร้อนถึงอาจาริย์ พลอยเปนพญาณ ไม่รู้ไม่เห็น เพราะสิษชั่วถ่อย ครูพลอยยากเย็น เณรจะไปเปน ตะภุ่น ๑๐ สูญงาม เช่นว่าอย่าท� ำ แม้นสอนไม่จ� ำ ขืนท� ำตะกลาม ตีให้เลือดไหล ไล่จากอาราม สาบหน้าตรานาม ไม่ฃอรอกัน  จงระมัดระวังประพฤติตนให้เหมาะสม มิฉะนั้นชาวบ้านเสื่อมศรัทธา ดังข้อความว่า หนึ่งท่านไปสวดมนตร์ ต� ำบลบ้านให้จงดี รมัดสิกขาชี เณรอย่าท� ำให้เสียเณร อย่าได้เที่ยวซุกซน พระสวดมนตร์อยู่เกนๆ หลบหน้าเที่ยวนั่งเปน เหนต้นไม้ขึ้นนั่งโปน ผ้าผ่อนก็ล่อนหลก ดั่งประสกที่แสนโลน เขาจักร� ำพันโพน ทนาเหน็บให้เจ็บใจ ทุกวันเขาพันหมิ่น ว่าศีลเณรนั้นน้อยไป นับถือแต่เจ้าไทย เขาเห็นเณรมักเบนเบือน เณรยิ่งไปท� ำโลน เขาจะโพนทะนาเลื่อน แทบเจียนจะไล่เตือน ให้ลงเรือนมิใคร่ทัน ฯลฯ เณรอย่าทะนงจิตร วิปริตในสิกขา อย่าฉันหมากพูดจา ให้เปรอะปากแล้วขากลง เรี่ยราดเปื้อนสาดเสื่อ ให้เสียเชื้อพระชินวง เขาจักก� ำสตปลง เสียใจถอยศรัทธาทาน ๑๐ ตะพุ่น โทษอาญาหลวงเกณฑ์ไปเกี่ยวหญ้าเลี้ยงช้างเลี้ยงม้า

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=