ปี-39-ฉบับที่-3

สุภาษิ ตศรี สวั สดิ์ : ค� ำสอนกุลบุตรผู้ศึ กษาในส� ำนั กสงฆ์ 254 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 39 No. 3 Jul-Sep 2014  ขณะรออาจารย์ไปบิณฑบาต นอกจากจะจัดเตรียมน�้ ำใช้น�้ ำฉัน ภาชนะ ปูเสื่อแล้ว ยังต้อง ติดไฟรอไว้ด้วย เผื่อรับบิณฑบาตได้ไม่พอจะได้ประกอบอาหารเลี้ยงดูกัน หรือใช้อุ่นอาหาร ดังข้อความว่า เผื่อบิณฑบาตขัด เข้ากับอัตคัด จะได้อาไศรย ปลาสลิดปลาทู ดูปิ้งแกงไว้ สังเกตคาดใจ ท่านฉันตัวกิน ถึงบิณฑบาตได้ ต้องอาศัยไฟ อุ่นดีมีกลิ่น  จงรับบาตรไปถืออย่างระมัดระวัง อย่าให้อาหารหก จะไม่พอฉันพอรับประทานกัน ดังที่ว่า เข้าไปรับบาตร อย่าท� ำพล� ำพลาด อ้อนแอ้นกายา ท่านส่งบาตรให้ อาไศรยอัชฌา อย่าให้เข้าปลา ต้มแกงหกเอียง ยกท้าวจดจ้อง ตานั้นมุ่งมอง ดูทางให้เที่ยง อย่าท� ำบาตรพลัด เหมือนตัดล� ำเลียง เจ้าอย่าเมินเมียง มุ่งมากุฎี  จงถ่ายข้าวของถวายลงภาชนะที่จัดเตรียมไปด้วยความระมัดระวัง อย่าท� ำโครมครามให้ของ ตกหล่น เจ้าของทานจะเสียใจ ดังข้อความว่า เนื้อปลาและกล้วยอ้อย ทังใหญ่น้อยค่อยถ่ายลง มั่นมือถือบันจง จะถ่ายลงให้ควรการ อย่าท� ำให้ก� ำมนาด กระบุงพาดถูกโตกพาน ของตกประเจิดจาน เจ้าทานเห็นจะเสียใจ  จงอย่าเกี้ยวพานพี่สาวเด็กที่มาส่งข้าวปลา ถ้าเขาพอใจด้วยจนเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม จะถูกจับ ไปลงโทษ ๙ อาจารย์ก็เดือดร้อนด้วย ถ้าขืนประพฤติเช่นว่าอาจารย์จะลงโทษอย่างหนัก ดังข้อความว่า หนึ่งนั้นสีกา พี่สาวเด็กมา หน้าตาเพริดพริ้ง มาส่งกัปปี อย่าตีประวิง พูดแยบแอบอิง เกี้ยวพานมานยา เขาชังยังชั่ว ฟ้องแต่ท่านขรัว เปนแต่โกรธา ๙ ตอนนี้เป็นอีกแห่งหนึ่งที่น่าจะสะท้อนภาพเหตุการณ์สมัยที่มีการกวดขันวินัยสงฆ์