ปี-39-ฉบับที่-3
235 ชลดา เรื องรั กษ์ลิ ขิ ต วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ พี่เลี้ยงว่า “ข้าคิดจะไปอยู่ป่าพนาลี มะรุมมะราไปตามทีดีกว่าตาย” (เรื่องเดิม : ๓๖) และกราบทูลมะเดหวี ว่า “...ลูกทนไม่ไหวแล้ว ขืนอยู่ต่อไปก็ต้องตาย ลูกแสนที่จะเบื่อหน่ายเหลือทนเหลือทานแล้ว ถึงอย่างไร ก็ขอให้ไปพ้นเสียจากที่นี่เถิด...” (เรื่องเดิม : ๓๗) อนึ่ง เมื่ออินูลาปันหยีมิสาหรังไปอภิเษกที่ดาหา ปันหยี มิสาหรังก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าตนคือจันตะหรากิรหนาโดยให้เหตุผลตอนท้ายเรื่องว่า “ใครจะทูลได้เล่า ถ้าทรงรักอยู่ก็ดี ถ้าไม่รักน้องจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน...” (เรื่องเดิม : ๑๔๑) นอกจากนี้ เมื่อปลอมเป็นชาย ชื่อปันหยีมิสาหรังแล้ว เกรงว่าจะถูกจับได้ว่าเป็นหญิง ทั้งยังต้องการลืมอินูด้วย จึงตัดสินใจหนีออกจากเมือง ไปหาอาซึ่งบวชอยู่ที่กุหนุงวิลิศและออกเดินทางวันรุ่งขึ้นทันทีและทิ้งมะเดหวีไว้โดยมิได้บอกลา (เรื่องเดิม : ๗๔-๗๕) ลักษณะนิสัยเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ไม่พบในพระราชนิพนธ์บทละครในเรื่อง อิเหนา ของรัชกาลที่ ๒ ความสรุป แม้บทละครเรื่อง ปันหยีมิสาหรัง จะมีขึ้นในบรรณพิภพมานานแล้วไม่ต�่ ำว่า ๖๐ ปี แต่มีน้อย คนที่รู้จักเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นอิเหนาอีกส� ำนวนหนึ่งของไทยที่มีรายละเอียดต่าง ๆ แปลกไปจากเรื่องเดิม ที่คนไทยเคยรู้จักมักคุ้น แม้ผลงานเรื่องนี้ไม่ดีเด่นและไม่ประณีตเท่าพระราชนิพนธ์บทละครในเรื่อง อิเหนา ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แต่ก็สะท้อนให้เห็นความตั้งใจของผู้แต่ง และเห็นอิทธิพลที่ ได้รับจากพระราชนิพนธ์บทละครในเรื่อง อิเหนา ไม่น้อยทั้งที่เป็นชื่อเมือง ชื่อตัวละคร ชื่อต� ำแหน่ง รวมทั้ง การใช้ค� ำนามและค� ำกริยาบางค� ำ การศึกษาบทละครเรื่อง ปันหยีมิสาหรัง ครั้งนี้นอกจากท� ำให้รู้จักนิทานปันหยีของไทยเพิ่มขึ้น แล้ว ยังเป็นการเตรียมข้อมูลให้คนไทยพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมากขึ้น และเพื่อน� ำไปสู่การสัมมนา ระดับนานาชาติเรื่องนิทานปันหยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๒ ในอีกไม่นาน นี้ หลังมีสัมมนาครั้งแรกไปแล้วระหว่างวันที่ ๒-๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ในครั้งนั้นฝ่ายไทยได้น� ำเสนอ พระราชนิพนธ์บทละครในเรื่อง อิเหนา ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และบทเจรจาละคร เรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ประเทศเพื่อนบ้านและผู้สนใจ ได้รู้จักไปแล้ว.
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=