ปี-39-ฉบับที่-3

227 ชลดา เรื องรั กษ์ลิ ขิ ต วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ ปันหยีสะมิหรัง ปันหยีมิสาหรัง ...นางมีสิริรูปฉวีวรรณนวลละอองผ่องใส งามสุดที่จะ ...มีพระฉวีวรรณผ่องใสงดงามยิ่งนัก พระ หาค� ำพรรณนาได้ นาสิกประดุจกลีบกระเทียม นัยเนตร นาสิกประดุจกลีบกระเทียม นัยเนตร ดุจดวงดาราทิศบูรพา ขนเนตรงอนพริ้ง นิ้วหัตถ์เรียว ประดุจดวงดารา ขนพระเนตรงอน นิ้ว ประดุจขนเม่น เพลาน่องดั่งท้อง (อุ้ง) เมล็ดข้าวเปลือก พระหัตถ์เรียวงาม พระชงฆ์ดุจท้องข้าว ส้นบาทดังฟองไข่นก ปรางดังมะม่วงป่าห้อยอยู่ ขนง เปลือก ขนงดุจงากุญชร โอษฐ์ดุจมะนาว โค้งดั่งงากุญชร ริมโอษฐ์ดั่งโค้งมะนาวตัด ... ตัด... ค� ำพรรณนาความงามของอาหยัง ตอนจะส่งตัวอาหยังเข้าห้องบรรทมหลังอภิเษกกับอินูแล้ว ผู้แต่งชมอาหยังว่า “ศอระหงราวกับด�้ ำกระบวยยังไม่ได้ติด” (อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง : ๘๙) ในบทละครตัดรายละเอียดส่วนนี้ออก คือไม่มีการชมคอของอาหยัง ค� ำพรรณนาความงามของปันหยียาหยังกุสุมา นายประตูกราบทูลระตูกากะหลังเรื่องความ งามของปันหยียาหยังกุสุมาที่มาตั้งค่ายตรงชายแดนเมืองกากะหลัง ฉบับแปลระบุว่า “กะละหนานั้นรูป งามอ้อนแอ้นราวกับองค์สังหยังเทวราชลงมาจากกะยาหงัน และงามยิ่งกว่าตะบาหรากะมะชายะ ท่วงที กิริยาอ่อนโยนดังดอกกุหลาบยามโรย...” (อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง : ๑๑๒) ใน บทละครบรรยายสั้น ๆ ว่า “ปันหยีคนนี้สวยงามมาก รูปร่างผึ่งผาย กิริยาอ่อนโยนดุจดอกกุหลาบ...” (บทละครเรื่องปันหยีมิสาหรังและรุ่งฟ้าดอยสิงห์ : ๙๕) ตัดรายละเอียดบางประการในค� ำสอนของลิกู ตอนลิกูสอนมารยาหญิงแก่อาหยังผู้เป็นธิดา เพื่อให้ยั่วยวนอินู ในฉบับแปลสอนให้แสร้งท� ำเป็นกลัวอินู หากอินูจับมือถือแขน ให้ปัดป้องและชักมือหนี เมื่ออินูจะอุ้มก็ให้ร้องไห้ เพื่อให้อินูช่วยเช็ดน�้ ำตาแล้วปลอบโยน แต่ถ้าอินูไม่ยอมถูกเนื้อต้องตัว อาหยังก็ ควรนอนบนตักอินู กอดบั้นเอวไว้ และเมื่ออินูจะเสวยหมากก็ให้อาหยังป้อนหมากให้อินูจากปากของนาง เหมือนแม่นกป้อนอาหารแก่ลูกนก (อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง : ๙๐) ในบทละครตัด ค� ำสอนบางอย่างทิ้ง มีเพียงลิกูสอนอาหยังให้เล่นตัว แกล้งท� ำเป็นกลัวและตกใจ ถ้าอินูจะจับมืออาหยังก็ ให้ปัดออกเสีย ถ้าอินูอุ้มก็ให้แกล้งร้องไห้เพื่ออินูจะได้ปลอบ ถ้าอินูไม่ปลอบก็ให้อาหยังนอนบนตักอินูและ กอดเอวไว้ (บทละครเรื่องปันหยีมิสาหรังและรุ่งฟ้าดอยสิงห์ : ๗๐-๗๑) ตัดรายละเอียดในค� ำบรรยายการฝังศพของประไหมสุหรี ใน อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง บรรยายว่าในการฝังศพ ระตูดาหาให้ปั้นพระรูปจ� ำลองประไหมสุหรีอย่างงามวิจิตร แล้ว ฝังไปพร้อมกับพระศพ (อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง : ๓๙) แต่ในส� ำนวนนี้ไม่มีการปั้น พระรูปจ� ำลอง กล่าวบรรยายสั้น ๆ ว่า “ให้เอาพระศพไปฝัง ณ สุสานส� ำหรับพระราชวงศ์” (บทละครเรื่อง ปันหยีมิสาหรังและรุ่งฟ้าดอยสิงห์: ๒๖)

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=