ปี-39-ฉบับที่-3
221 ชลดา เรื องรั กษ์ลิ ขิ ต วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ ให้เชิญพระมเหสีกลับไปและให้ทูลว่าพระองค์จะไปเฝ้า แล้วปันหยีก็จัดแจง เตรียมพระองค์จะเข้าไปเฝ้า ประไหมสุหรีก็ทูลลาปันหยีไป (ปิดฉาก) ที่มาของเนื้อหา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล ทรงได้เนื้อหาของเรื่อง ปันหยีมิสาหรัง จากเรื่อง อิเหนา ฉบับที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนคร สวรรค์วรพินิต ทรงแปลและทรงพระนิพนธ์จากต้นฉบับภาษามลายูชื่อ หิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง ซึ่งมีผู้แปล จากภาษาชวาเป็นภาษามลายู (เรื่องเดิม : ง และ อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง, ๒๕๕๒ : จากส� ำนักพิมพ์) ต้นฉบับภาษามลายูเป็นร้อยแก้วซึ่งมีร้อยกรองปน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า บริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงแปลให้ใกล้เคียงตามต้นฉบับภาษามลายูมากที่สุด ทรง รักษาแม้กระทั่งลักษณะของสัมผัสที่มีในบทร้อยกรองภาษามลายูซึ่งเป็นทั้งสัมผัสแบบคู่สลับและสัมผัส แบบกลอนหัวเดียว ดังที่ทรงอธิบายว่า “...ได้พยายามที่สุดที่จะแปลให้ตรงค� ำตรงความตลอดไป เพื่อผู้อ่าน จะได้เห็นส� ำนวนหนังสือของกวีชวา ซึ่งอ่านโดยพิจารณาจะเห็นได้ว่าส� ำนวนที่เขาใช้นั้นก็มีท่วงทีนักเลงใน เชิงกวีอยู่ไม่น้อย” (อิเหนา ฉบับแปลจากหิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง : ค� ำน� ำของผู้แปล) ตอนจันตะหรา กิรหนาเล่นตุ๊กตาทองและร้องกล่อม (เรื่องเดิม : ๔๖) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงอธิบายไว้ในเชิงอรรถว่า “บาทกลอนมลายูตามต้นฉบับเป็นดังนี้ คือ ไม่มีบังคับ ครุ ลหุ ไม่มีบังคับจ� ำนวนพยางค์ มีแต่สัมผัสท้ายวรรคเป็นชุดสี่ เว้นแต่บทต้นทิ้งสัมผัสเป็นคู่สลับ ในการ แปลได้รจนาตามไปดังบาทกลอนในต้นฉบับนั้นโดยรักษาความให้ตรงกัน และสัมผัสทิ้งก็ตรงกัน...” (เรื่องเดิม, หน้าเดิม) เนื้อหาสังเขป ผู้ทรงพระนิพนธ์ทรงเก็บความเนื้อหาของ ปันหยีมิสาหรัง จากเรื่อง อิเหนา ฉบับแปลจาก หิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง พระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์ วรพินิต แล้วทรงพระนิพนธ์ขึ้นใหม่ให้กระชับโดยตัดเนื้อความตอนต้นและท้ายเรื่องออก แล้วทรง บรรยายก่อนเริ่มแสดงเพื่อให้ภูมิหลัง กล่าวถึงชาวสวรรค์ ๔ องค์จุติเป็นกษัตริย์พี่น้องในโลกมนุษย์ ได้แก่ ระตูกุรีปัน ดาหา กาหลัง และบีกูคฑะส่าหรีหรือคันธาส่าหรีซึ่งเป็นหญิงและบวชเป็นชีอยู่ที่กุหนุงวิลิส ระตูกุรีปันมีโอรสรูปงาม คือ ระเด่นอินูกะระปาตีซึ่งมีอัธยาศรัยดีและพูดจาไพเราะ ระตูกาหลังมีโอรส พระองค์หนึ่ง มีพระนามว่าระเด่นสิงหมนตรีหรือศิริกันซึ่งโปรดค� ำยอและการแต่งพระองค์ในลักษณะโอ้อวด ฝ่ายระตูดาหามีมเหสี ๑ องค์ คือ ประไหมสุหรี ชายารองอีก ๒ องค์ ได้แก่ พระมหาเทวีหรือมะเดหวี และลิกูผู้เป็นหญิงต�่ ำศักดิ์ ระตูดาหามีธิดา ๒ องค์ องค์ที่เกิดแต่ประไหมสุหรีคือจันตะหรากิรหนา องค์ ที่เกิดแต่ลิกูคืออาหยังเป็นคนขี้อิจฉา โลภมาก ทะเยอทะยาน เห็นแก่ตัว และมักเอาเปรียบคนอื่น ทั้ง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=