ปี-39-ฉบับที่-3

217 ชลดา เรื องรั กษ์ลิ ขิ ต วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ ปันหยีมิสาหรัง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ เพื่อใช้เป็นบทแสดง (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรณมงคลการ, เรื่องเดิม : ง) รูปแบบ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล ทรงพระนิพนธ์เรื่อง ปันหยีมิสาหรัง เป็นบทละครพันทางซึ่งเน้นเจรจาและการบรรยายเรื่องเป็นส� ำคัญ มีบทร� ำน้อย พระองค์และ อาจารย์กรมศิลปากรได้แต่งท� ำนองเพลงขึ้นใหม่ ส่วนใหญ่เป็นท� ำนองเพลงของชวา (สุดารัตน์ กัลยา, เรื่องเดิม : ๒๙) ทรงแบ่งเนื้อหาเป็น ๖๒ ฉาก แต่ละฉากเป็นเหตุการณ์สั้น ๆ ด� ำเนินเรื่องด้วยบทร้อย กรองที่แต่งเป็นกลอนบทละครซึ่งบางฉากมีกลอนบทละครเพียง ๑ บทเท่านั้น มีเพลงหน้าพาทย์และ เพลงร้อง ส่วนมากให้ตัวละครเจรจาเป็นร้อยแก้วและมีค� ำบรรยายร้อยแก้วเพื่อให้ด� ำเนินเรื่องได้รวดเร็ว ทั้งยังมีรายละเอียดเรื่องการก� ำกับการแสดงด้วย เช่น ฉากแรกเป็นที่ประทับเล่นภายในพระราชวังดาหา ระตูดาหาประทับอยู่ มีชายาทั้งสามเข้าเฝ้า พร้อมพระธิดาทั้งสองและนางสนมก� ำนัล ระตูดาหามีรับสั่งให้มหาเดหวีพาพระธิดาทั้งสองไปชมดอกไม้ และว่ายน�้ ำเล่น (บทละครเรื่องปันหยีมิสาหรังและรุ่งฟ้าดอยสิงห์ : ๗) ดังตัวอย่าง ฉากที่ ๑ ภายในพระราชวังท้าวดาหา เป็นที่ประทับเล่นภายในที่รโหฐาน ตัวละคร มีท้าวดาหากับพระมเหสีทั้งสาม ประไหมสุหรี, มะเดหวี, และลิกู พร้อมด้วยพระ ราชธิดาทั้งสองและพระสนมก� ำนัล ปี่พาทย์ท� ำเพลงวา (ช้าปี่) เมื่อนั้น พระปิ่นปักนัคเรศดาหา สืบเนื่องแต่วงศ์เทวา ที่สถิตยังชวาเขตขัณฑ์ มเหสีสามองค์นงลักษณ์ ธิดาสองผ่องพักตร์เพียงบุหลัน นามจันตะหราอาหยังยอดชีวัน ถนอมขวัญดังดวงนัยนา (แขกกล่อมเจ้า) ได้เวลาสุรฉายบ่ายคล้อย ใคร่ให้ธิดาน้อยเสน่หา ไปยังสตาหมันส� ำบันยา จะได้ถูกพลาอนามัย ด� ำรัสสั่งมะเดหวีมีศักดิ์ จงพาลูกรักพิสมัย ไปชมพรรณบุหงามาลัย ให้ส� ำราญฤทัยสองเทวี

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=