ปี-39-ฉบับที่-3
145 วินั ย ภู่ระหงษ์ วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๙ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๗ ทิศประจิมริมฐานมณฑปนั้น มีดาบสรูปปั้นยิงฟันขาว นุ่งหนังพยัคฆาชฎายาว ครังเคราคราวหนวดแซมสองแก้มคาง ชั้นบันไดจะขึ้นไปมณฑปนั้น สิงโตตันสองตัวกระหนาบข้าง ดูผาดเผ่นเหมือนจะเต้นไปตามทาง พี่ชมพลางขึ้นบนบันไดพลัน ทั้งสาวหนุ่มเข้าประชุมกันแออัด ประนมหัตถ์ทักษิณเกษมสันต์ แต่เวียนเดินเพลินชมมาตามกัน ตามช่องชั้นก� ำแพงแก้วอันแพรวพราย ทั้งซุ้มเสามณฑปกระจกแจ่ม กระจังแซมปลายเสาเป็นบัวหงาย มีดอกจันก้านแย่งสลับลาย กลางกระจายดอกจอกประจ� ำท� ำ พื้นผนังหลังบัวที่ฐานบัทม์ เป็นครุฑอัดยืนเหยียบภุชงค์ขย� ำ หยิกขยุ้มกุมวาสุกรีก� ำ กินนรร� ำรายเทพประนมกร ใบระกาหน้าบันบนชั้นมุข สุวรรณสุกเลื่อมแก้วประภัสสร ดูยอดเยี่ยมเทียมยอดยุคนธร กระจังซ้อนแซมใบระกาบัง นาคสะดุ้งรุงรังกระดึงห้อย ใบโพธิ์ร้อยระเรงอยู่เหง่งหงั่ง เสียงประสานกังสดาลกระดึงดัง วิเวกวังเวงในหัวใจครัน บานทวารลานแลล้วนลายมุก น่าสนุกในกระหนกดูผกผัน เป็นนาคครุฑยุดเหยี่ยวในเครือวัลย์ รูปยักษ์ยันยืนกอดกระบองกุม สิงโตอัดกัดก้านกระหนกเกี่ยว เทพเหนี่ยวเครือกระหวัดหัตถ์ขยุ้ม ชมพูพานกอดก้านกระหนกรุม สุครีพกุมขรรค์เงื้อในเครือวง รูปนารายณ์ทรงขี่ครุฑาเหิร พรหมเจริญเสด็จยังบัลลังก์หงส์ รูปอมรกรก� ำพระธ� ำมรงค์ เสด็จทรงคชสารในบานบัง ผนังในมณฑปทั้งสี่ด้าน โอฬาร์ฬารทองทาฝาผนัง จ� ำเพาะมีสี่ด้านทวารบัง ที่พื้นนั่งดาดด้วยแผ่นเงินงาม มณฑปน้อยสวมรอยพระบาทนั้น ล้วนสุวรรณแจ่มแจ้งแสงอร่าม เพดานดาดลาดล้วนกระจกงาม พระเพลิงพลามพร่างพร่างสว่างพราย ตาข่ายแก้วปักกรองเป็นกรวยห้อย ระย้าย้อยแวววามอร่ามฉาย หอมควันธูปเทียนตระหลบอยู่อบอาย ฟุ้งกระจายรื่นรื่นทั้งห้องทอง (นิราศพระบาท)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=