วารสารปี-40-ฉบับที่-3-resize
การปกครองของสยามก่อนการปฏิ รูปการปกครอง พ.ศ. ๒๔๓๕ 78 The Journal of the Royal Society of Thailand Vol. 40 No. 3 Jul-Sep 2015 ๔๐๐ ขึ้นไป ยกเสียแต่นายรองหุ้มแพรมหาดเล็ก ซึ่งเปนบุตรขุนนางดังเช่นว่าไว้แล้วในข้างต้น มีศักดินา แต่ ๓๐๐ พระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งเองเพราะเปนคนใช้อยู่ใกล้เคียง เพราะเหตุฉะนั้น กรมมหาดเล็กนี้ เปนกรมส� ำคัญยิ่งกว่ากรมอื่น ๆ ถึงตัวนายที่ได้รับสัญญาบัตรจะมีศักดินาน้อย ก็เปนที่ย� ำเกรงนับถือของคน ทั้งปวงมากกว่าขุนนางซึ่งมีศักดินาสูง ๆ กรมอื่น ๆ ด้วยเปนเหตุ ที่เปนบุตรขุนนางมีตระกูลประการหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเปนอย่างไรต่อไปประการหนึ่ง เปนผู้ใกล้เคียงได้ฟังกระแสพระเจ้าแผ่นดินแน่แท้ประการหนึ่ง เปนผู้เพ็ดทูลได้ง่ายประการหนึ่ง จึ่งได้มีเกียรติยสเป็นที่นับถือมาก ขุนนางซึ่งเปนธรรมเนียม มีต� ำแหน่งมาแต่โบราณ จนถึงปัตยุบันนี้แบ่งเปนสองพวก พวกหนึ่ง ฝ่ายทหาร พวกหนึ่งฝ่ายพลเรือน บันดาเลขไพร่หลวงซึ่งขึ้นในกรมฝ่ายทหาร ก็เปนไพร่หลวงทหาร ขึ้นฝ่ายพลเรือนก็เปนไพร่หลวงพลเรือน ถ้าเวลาจะจ่ายคนสักคน คนในฝ่ายพลเรือน พันพุดซึ่งเปน เจ้าพนักงานในกรมมหาดไทยเปนผู้จ่าย ถ้าเปนไพร่หลวงทหารพันเทพราช ซึ่งเปนเจ้าพนักงานในกรม พระกะลาโหมเปนผู้จ่าย แต่ถึงแบ่งเปนสองส่วนไว้อย่างนี้แล้วก็ดี เมื่อมีการทัพสึกต้องเกณฑ์เปนทหารไปรบทั้งสอง ฝ่าย ทั้งขุนนางแลไพร่ ถ้าจะว่าที่แท้แล้วในเวลาสงบไม่มีทัพสึก ก็เปนพลเรือนทั้งสองฝ่าย ถ้ามีการ ทัพสึกก็เปนทหารทั้งสองฝ่าย ทหารพลเรือนนั้น แบ่งแต่พอรู้ก� ำหนดว่าสองฝ่ายเท่านั้น ถ้าเวลาเข้าเฝ้า พระเจ้าแผ่นดิน พลเรือนเฝ้าฝ่ายขวาของพระเจ้าแผ่นดิน ฝ่ายซ้ายของผู้หันหน้าเข้ามาทางพระเจ้าแผ่นดิน ทหารเฝ้าฝ่ายซ้ายของพระเจ้าแผ่นดิน ฝ่ายขวาของผู้ที่หันหน้าเข้ามาทางพระเจ้าแผ่นดิน แต่นับถือกัน ว่าทหารเฝ้าขวาพลเรือนเฝ้าซ้าย ต้องไว้ช่องกลางเหมือนอย่างเช่นออกแขกเมืองหรือดังเช่นออกขุนนาง ทุกคราว ในต� ำแหน่งทหารพลเรือนทั้งสองฝ่ายนี้ มีท่านอรรคมหาเสนาบดีเปนหัวหน้าอยู่ฝ่ายละคนเรียก ว่าสมุห คือเจ้าหมู่สมุหนายกฝ่ายพลเรือน สมุหพระกะลาโหมฝ่ายทหาร กรมอื่น ๆ นอกจากนั้น ต้อง ขึ้นสองกรมนี้ทั้งสิ้น แต่มิใช่ขึ้นอยู่ในบังคับทีเดียว กรมต่าง ๆ ต้องฟังบังคับพระเจ้าแผ่นดินองค์เดียว เปนแต่ขึ้นอยู่ในบาญชีและเปนผู้รวบรวมบาญชีที่จะกะเกณฑ์ แลแจกเบี้ยหวัด ก� ำกับยื่นหางว่าวสักเลข แลการอื่น ๆ ไม่มีอ� ำนาจที่จะบังคับบัญชา สิ่งไรในกรมอื่น ๆ ที่เปนกรมใหญ่ ๆ ได้นอกจากกรมมหาดไทย กรมพระกระลาโหมซึ่งเป็นกรมของตัวแท้ ๆ ต� ำแหน่งขุนนางนั้น ได้ตั้งเปนธรรมเนียมขึ้นแรกแต่ครั้งสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถที่ ๑ ซึ่งได้เถลิงถวัลยราชสมบัติ ในกรุงเก่า เมื่อจุลศักราช ๗๙๖ เปนแบบสืบมาดังนี้ อรรคมหาเสนาบดี ๒ ฝ่าย พลเรือนคนหนึ่งคือเจ้าพระยาจักรกรี ฝ่ายทหารคนหนึ่งคือเจ้าพระยาอรรคมหาเสนาธิบดีเปนชั้นที่ ๑ รองลงไปจัตุสดมภ์สี่ คือพระคลัง เจ้าพระยาศรีธรรมราช วัง เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ พระนครบาล เจ้าพระยายมราช เกษตราธิบดี เจ้าพระยาพลเทพ ทั้ง ๔ เปนจัตุสดมภ์เสนาบดี ค� ำว่าจัตุสดมภ์นั้น แปลว่าเปนเครื่องค�้ ำเครื่องจุนทั้ง ๔ ถัดลงไป เสนาบดี พระยาสีหราชเดโชไชย แม่ทัพบก พระยาสีหราช
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=