วารสารปี-40-ฉบับที่-3-resize

289 ศาสตราจารย์กิ ตติ คุณ ดร.ไพฑูรย์ สิ นลารั ตน์ วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๘ อีกต่อไป แต่ในปัจจุบันในวิชาชีพครูเราจะมีทฤษฎีใหม่ ๆ วิธีการใหม่ ๆ หรือรูปแบบใหม่เหมือนเดิมแต่เป็น แนวคิดและวิธีการที่ครูมักมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากตะวันตก เราจึงมักจะเอาอย่างของเขามาพูด มาบอก มาสอนนักเรียนของเรา มาบอกกับเพื่อนครูของเรา ผู้เขียนคิดว่ามีอยู่หลายประเทศทีเดียว ในอาเซียนของเราที่ชอบเอาอย่าง ตัวอย่างที่ชัดเจนของไทยคือเรื่อง Flip Classroom, Backward Design เป็นต้น วิถีชีวิตของวิชาชีพครูจ� ำเป็นจะต้องมีพื้นวิญญาณของการเป็นผู้มีบทบาทในการน� ำวิชาการ ความรู้มาสู่สังคมให้ได้เหมือนเดิม อาจเป็นความรู้จากต่างประเทศก็ได้ แต่ต้องมีความสมดุลด้วยความรู้ แบบไทยเราด้วย ๓. เป็นวิชาชีพที่ชอบอ้างทฤษฎี (Referable Profession) สืบเนื่องจากข้อที่ ๒ ในอดีตครู จะเป็นผู้น� ำ เป็นผู้ชี้แนะ เป็นผู้อธิบายว่าอะไรผิดอะไรถูกและครูจะอธิบายด้วยเหตุผล หลักการ ทฤษฎี ต่าง ๆ เพราะครูจะศึกษาหาความรู้มา ครูเป็นอาชีพที่ต่อท่อวิชาการความรู้จากทุกมุมโลกมาสู่ชั้นเรียนพร้อม ค� ำแนะน� ำ แต่ในปัจจุบันมีค� ำวิจารณ์วิชาชีพครูในประเทศที่ก� ำลังพัฒนาโดยทั่ว ๆ ไปโดยเฉพาะประเทศไทย ว่าชอบอ้างแต่ต� ำรา อ้างแต่แนวคิด อ้างแต่ทฤษฎี ว่าทฤษฎีเป็นอย่างนั้นอย่างนี้หลายครั้งก็เอาทฤษฎี ทางการศึกษาไปให้คนอื่นใช้อ้าง และมักอ้างแต่ทฤษฎีตะวันตก ในทางปฏิบัติจริงไม่ได้ท� ำตามทฤษฎีที่ว่า เท่าใดจึงมักมีค� ำพูดว่า “ท� ำตามที่ครูพูดอย่าท� ำตามที่ครูท� ำ” อยู่เสมอ ครูต้องเป็นผู้น� ำของความคิดให้ได้อีกครั้งหนึ่ง เป็นผู้อธิบายทฤษฎี เหตุผล และแนวปฏิบัติให้แก่ ชุมชน ครูต้องกลับมาท� ำหน้าที่นี้ให้ได้ ๔. เป็นวิชาชีพอนุรักษนิยม (Conservative Profession) สืบเนื่องจากข้อที่ ๓ ครูแต่ละคน ในอดีตนั้นเคยเป็นบุคคลที่ก้าวหน้าทันสมัยที่สุด เพราะครูเป็นเสมือนผู้ต่อกับความรู้ กับภายนอกชุมชนได้ ดีที่สุด แต่ในปัจจุบันเราจะได้ยินเสมอว่าครูไทยไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงและไม่ยอมรับอะไรใหม่ ๆ มักจะ ท� ำอะไรในรูปแบบเดิม ๆ เสมอ ข้อนี้ก็มีค� ำอธิบายในทางวิชาชีพได้ ทั้งนี้เพราะวิชาชีพครูเกี่ยวข้องกับชีวิต คน จึงเป็นไปโดยธรรมชาติที่ผู้เกี่ยวข้องจะระมัดระวังเป็นพิเศษก่อนที่จะรับแนวคิดใหม่ แม้ครูจะระมัดระวังสิ่งที่สอนให้เด็กต้องเป็นของดีจริงแต่ก็ไม่ควรปิดกั้นความคิดใหม่ ๆ ไม่ควรติด กับของเก่าจนเกินไปโดยไม่เปิดรับของใหม่เท่าที่ควร ๕. เป็นวิชาชีพชอบพูด (Talking Profession) ในอดีตครูจะพูดพอดีไม่บ่นไม่ว่ามากนัก และจะมีบางท่านที่เราเรียกปากร้ายใจดีพวกนี้ก็พูดไม่มาก แต่ในปัจจุบันครูในประเทศไทยนั้นจะพูดมาก ในชั้นเรียนเพราะเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองรู้นั้นต้องเหมาะสมกว่าที่อื่น ๆ บทความหลายชิ้นในหลายประเทศ ค่อนข้างพูดตรงกันว่าการสอนของครูในอาเซียนยังเน้นการบอก เน้นการบรรยายอยู่อย่างมาก โดยเหตุนี้ จึงน� ำไปสู่คุณลักษณะของเด็กไทยที่ไม่มีความสามารถทางการคิดหรือวิเคราะห์มากเท่าที่ควร

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=