วารสารปี-40-ฉบับที่-3-resize

บ้านสามขา : บทเรี ยนความส� ำเร็ จของการพั ฒนาที่ ไม่ต้องอาศั ยทฤษฎี 254 The Journal of the Royal Society of Thailand Vol. 40 No. 3 Jul-Sep 2015 กลุ่มที่ ๑ หัวไว ใจสู้ รู้งาน ประสานเก่ง มีสัดส่วนร้อยละ ๑๐ กลุ่มที่ ๒ รอดูทีท่า มีสัดส่วนร้อยละ ๓๐ กลุ่มที่ ๓ เอาหมู่มากเข้าว่า มีสัดส่วนร้อยละ ๔๐ กลุ่มที่ ๔ ดีแต่พูด ชอบติ ชอบนินทา ไม่ร่วมมือ มีสัดส่วนร้อยละ ๒๐ คนในกลุ่มแรกจัดได้ว่าเป็นคนพวกเดียวกันกับคณะผู้ปกครองหมู่บ้าน แต่ก็ยังจัดว่าเป็นคน กลุ่มน้อยเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับอีก ๓ กลุ่มที่เหลือ กลยุทธ์เชิงมวลชนคือ การใช้คนกลุ่มแรก ในการขายความคิดแทรกซึมเข้าไปในคนกลุ่มที่ ๒ ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความจริงจังและตั้งใจของคณะ ผู้ปกครองที่ต้องการสร้างความสงบและความสุขให้กับคนทั้งหมดในหมู่บ้าน จากคนกลุ่มน้อยเริ่มมีความ เป็นกลุ่มคนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีสัดส่วนเป็นร้อยละ ๔๐ ของคนทั้งหมดในชุมชน ขั้นตอนต่อไปคือ พยายาม ชักจูงคนในกลุ่มที่ ๓ ให้เข้าเป็นพวกด้วยการท� ำและชี้แนะให้เห็นถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากการ มีส่วนร่วมในการด� ำเนินกิจกรรมของชุมชน ระยะเวลา ๒-๓ ปีของการด� ำเนินการตามกลยุทธ์ดังกล่าว ท� ำให้คณะผู้ปกครองหมู่บ้านได้มวลชนร่วมเป็นพวกเดียวกันร้อยละ ๘๐ ส� ำหรับคนในกลุ่มที่ ๔ จ� ำเป็น ต้องใช้เวลามากกว่าปรกติในการที่จะท� ำให้พวกเขาเข้าใจการท� ำงาน เมื่อประโยชน์สุขเกิดขึ้นกับคนใน หมู่บ้านอย่างชัดเจน คนที่เหลือในกลุ่มสุดท้ายนี้เริ่มทยอยเข้ากับกลุ่มใหญ่ และยินดีให้ความร่วมมือกับ การท� ำกิจกรรมของชุมชนมากขึ้น บทเรียนที่ ๒ การพัฒนาสังคม เมื่อพัฒนาคนได้แล้วเป้าหมายต่อไปของผู้ปกครองและคณะกรรมการหมู่บ้านที่ต้องท� ำเพื่อ ความเจริญก้าวหน้าและความสงบสุขของชุมชนคือ การพัฒนาสังคม หลักคิดในการปฏิบัติที่ไม่มีความ ซับซ้อนคือ ท� ำอย่างไรก็ได้ที่จะให้คนในชุมชนมีความรักและความสามัคคี เมื่อคนในชุมชนมีความสมัครสมาน สามัคคี การท� ำงานใด ๆ เพื่อประโยชน์ของชุมชนมิใช่เรื่องยาก การร่วมแรงร่วมใจกัน การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ล้วนเป็นปัจจัยที่จะท� ำให้ชุมชนเกิดความสงบสุข การบริหารจัดการในส่วนนี้ ผู้ปกครองและคณะ กรรมการหมู่บ้านได้ปฏิบัติเชื่อมต่อจากการสร้างความตระหนักและจิตส� ำนึกในบทเรียนแรกด้วยการท� ำให้ เกิดความรักความผูกพันระหว่างกันของคนตั้งแต่ระดับครอบครัว แล้วขยายสู่กลุ่มคนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น