วารสารปี-40-ฉบับที่-3-resize

The Journal of the Royal Society of Thailand Vol. 40 No. 3 Jul-Sep 2015 การย้อนพินิจการบริหารจัดการส� ำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๕๒ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ราชบัณฑิต ส� ำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา บทคัดย่อ ส� ำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน, สมศ.) ได้รับการ จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยมีความเชื่อว่า คุณภาพการศึกษา หมายถึง คุณภาพของ ผู้เรียนที่มีสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ระดับสูง สมศ. มีหน้าที่ในการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา อย่างน้อย ๑ ครั้ง ทุก ๕ ปี บทความนี้มุ่งน� ำเสนอผลการย้อนพินิจการบริหารจัดการส� ำนักงานรับรองมาตรฐานและ ประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๔ ถึง ๒๕๕๒ โดยการใช้กรอบห้าซี (5Cs) ในการบรรยายอธิบายธรรมชาติของ สมศ. ผลการย้อนพินิจการบริหารจัดการ สมศ. ได้บทเรียนที่พึงเรียนรู้ ๙ ประการ จะเห็นได้ว่า สมศ. ในทศวรรษแรกได้รับการยอมรับทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติว่า เป็นองค์การที่ประสบความส� ำเร็จ ค� ำส� ำคัญ : การย้อนพินิจ, การบริหารจัดการ, ส� ำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา, สมศ., บทเรียน เหตุผลและความจ� ำเป็นในการจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งแต่แผน ๘ เป็นต้นมา เน้นคนเป็นศูนย์กลางของ การพัฒนา เน้นการพัฒนาคน เพิ่มคุณภาพคนเพื่อเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาทั้งปวง เชื่อว่าคนที่มีคุณภาพ เป็นปัจจัยส� ำคัญของความส� ำเร็จของการพัฒนาทุกด้าน และต่อมามีการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้การเมือง มีประสิทธิภาพ และเอื้อต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มีรัฐธรรมนูญใหม่ มีผลบังคับใช้ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๐ ยึดประชาชนเป็นฐาน เน้นการเมืองเป็นเรื่องของพลเมือง คือ ยึดการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นส� ำคัญ การเมืองระบบนี้ต้องอาศัยคนที่มีคุณภาพ กลุ่มหนึ่ง คือ คุณภาพนักการเมือง ประกันว่าต้องจบปริญญาตรี

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=