วารสารปี-40-ฉบับที่-3-resize
191 ศาสตราจารย์กิ ตติ คุณ สุกั ญญา สุดบรรทั ด วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๘ ทั้งนี้ พระราชา เสนาอ� ำมาตย์ นักปราชญ์ราชบัณฑิต คือผู้มีอ� ำนาจทั้งทางอาวุธและความคิด ที่จะสามารถเผยแผ่ศาสนาให้กว้างขวางออกไป พระราชาเหล่านี้บ้างก็มีพระนามปรากฏบันทึกในทาง ประวัติศาสตร์ที่ยืนยันชัดเจน เช่น พระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าอโศก แต่บางพระองค์ มีปรากฏอยู่เพียงในต� ำนานที่อาจจะจริงหรือไม่ก็ได้ เช่น พระเจ้าสิงหนวัติ แต่แม้หากไม่มีจริง เรื่องราวของ พระองค์ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการเคลื่อนไปของจักรกลจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนา กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความจริงไม่มีความส� ำคัญเท่าความเป็นต� ำนาน และความเป็นหลักยึดแห่งศรัทธา สาร (Message) สารศาสนามีทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา วัจนภาษาเหล่านี้จะเข้าถึงได้ก็แต่เฉพาะผู้รู้หนังสือซึ่งใน สมัยโบราณคงจะมีไม่มากนัก สิ่งที่เข้ามาเสริมก็คืออวัจนภาษา คือความยิ่งใหญ่อลังการ ความหมายทางจิต วิญญาณที่ถ่ายทอดออกมาในศิลปะและสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆนั่นเอง ในการถ่ายทอดสารพุทธศาสนา ส่วนหนึ่ง คือพุทธธรรม อีกส่วนหนึ่งตามนิยามศัพท์คือตัวสารที่เกี่ยวอยู่กับพุทธธรรมแต่ไม่ใช่ตัวพุทธธรรม เรื่องเล่า ประเภทนี้มีปรากฏอยู่ในที่หลายแห่ง และก็เช่นกัน แม้พิสูจน์ไม่ได้แต่ก็ควรค่าแก่ความจดจ� ำเพราะมี ความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความยาวนานของเวลาและความแตกต่างของพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ท� ำให้การด� ำเนินไปของ สารประเภทนี้มีลักษณะ “ล่องลอย” (floating) หมุนเวียนไปตามกระแสธารแห่งเวลา บางครั้งก็เคลื่อนไป อย่างธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมก็จะเคลื่อนไปจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง อาจไปโดยการหนีภัย หรือ ไปโดยผ่านศิลปวิทยาการ วรรณกรรม สื่อประเพณี ถ้าไม่ธรรมชาติ ก็หมายความว่ามีคนคัดท้าย จงใจเอา พุทธศาสนาไปประดิษฐาน ณ ที่นั้น ๆ เช่น กรณีของพระเจ้าอโศก ในระหว่างการเคลื่อนย้ายของเวลาดังกล่าวนี้ สารที่ “ล่องลอย” หรือ “หมุนเวียน” ไปกับกระแส ธารแห่งประวัติศาสตร์ ถูกขับเคลื่อนเข้าสู่การรับรู้ของผู้คนโดยอาศัยสื่อแห่งยุคสมัย มันเข้าไปฝังอยู่ใน วัฒนธรรมประเพณี อยู่ในวรรณกรรม และสื่อพื้นบ้าน เมื่อสารเหล่านี้เข้าไปพบกับสถานที่ที่มีพุทธศาสนาอยู่ เดิมมันก็จะเข้าไปเติมเต็ม แผ่ขยาย ถ้าเข้าไปในดินแดนใหม่ที่ปราศจากพุทธศาสนามันก็จะเข้าไปบอกกล่าว และเริ่มต้นจุดวิวัฒน์ เรื่องเล่า นิทาน ต� ำนาน น� ำมาซึ่งความภาคภูมิใจในความส� ำคัญของบรรพชนของตนเอง จึงถูกจารึก แกะสลัก ปั้น เพื่อให้เรื่องเล่านั้นคงอยู่จนชั่วลูกชั่วหลาน มันเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ผลักดัน พุทธศาสนาให้เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อใดก็ตามที่เครื่องจักรหยุดลง (คัมภีร์ถูกเผา พุทธสถาน ถูกท� ำลาย พิธีกรรมถูกสั่งห้าม พระภิกษุถูกห้ามส่งสาร) กระบวนการสื่อสารก็ไม่สามารถเคลื่อนต่อไปได้ เมื่อไม่มีผู้ใดอาจส่งต่อจิตวิญญาณแห่งศาสนา จิตวิญญาณพุทธที่ฝังอยู่ในสารที่หมุนวนอยู่อาจจะไม่ได้ กลับคืนมาอีกเลย
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=