วารสารปี-40-ฉบับที่-3-resize
115 รองศาสตราจารย์ ดร.ชาย โพธิ สิ ตา วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๓ ก.ค.-ก.ย. ๒๕๕๘ ๒.๒ แนวคิดเกษตรเชิงระบบ (system approach in agriculture) แนวคิดนี้มองว่า หน่วยส� ำคัญ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง (locus of change) ในการท� ำเกษตรกรรมคือครัวเรือน ซึ่งด� ำรงอยู่ในระบบใหญ่ อันประกอบด้วยสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (เช่น ดินฟ้าอากาศ ความชื้น ปริมาณน�้ ำฝน ฯลฯ) และชีวภาพ (พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์) รวมถึงสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และนโยบายทางการเมือง เป็นต้น ทั้งในระดับ ชุมชน ท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ ภายในระบบนี้ครัวเรือนจะท� ำการเกษตรโดยอาศัยองค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ภายในระบบที่ตนอาศัยอยู่ โดยค� ำนึงถึง จุดมุ่งหมาย ความพึงพอใจ และทรัพยากรที่มีอยู่ของตนเป็นส� ำคัญ (Shaner et al., 1982) ภายใต้มุมมองของแนวคิดเกษตรเชิงระบบ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเกษตรกรรมเป็นผลที่ตาม มาของการที่ครัวเรือนแต่ละครัวเรือนตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในระบบใหญ่ที่ตนด� ำรงอยู่โดยนัยนี้ การที่ครัวเรือนเกษตรกรเปลี่ยนการใช้ที่ดินจากการปลูกข้าว ไปปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น เช่น อ้อยเพื่อขาย ให้โรงงาน ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าที่ดินตรงนั้นเหมาะที่จะปลูกอ้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะว่าการท� ำเช่นนั้น สนองตอบความต้องการรายได้ที่เป็นเงินของเขาได้ดีกว่าปลูกข้าวด้วย ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรม จึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยไร้เจตจ� ำนงของครัวเรือนเกษตรกร ๓. พลวัตครัวเรือน พลวัตครัวเรือน (household dynamics) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในด้านขนาดและโครงสร้าง ของครัวเรือนการเปลี่ยนแปลงใน ๒ มิตินี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ครัวเรือนเคลื่อนผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ในช่วงชีวิต ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงช่วงปลาย ตลอดไปจนถึงช่วงรอยต่อระหว่างครัวเรือนของสมาชิกรุ่นพ่อแม่กับครัวเรือน ของสมาชิกรุ่นลูกและรุ่นต่อ ๆ ไป การเปลี่ยนแปลงด้านขนาดครัวเรือน เกิดจากการที่จ� ำนวนสมาชิกครัวเรือนเพิ่มขึ้นหรือลดลง อันเนื่องจากการเกิด การตาย และการย้ายเข้าย้ายออก ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้าง หมายถึง การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของสมาชิกครัวเรือนตามอายุ (วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ วัยสูงอายุ) เพศ (ชาย-หญิง) และ จ� ำนวนรุ่นสมาชิก (๑, ๒ หรือ ๓ รุ่น) ที่มีอยู่ในครัวเรือน ในระยะยาวขนาดของครัวเรือนจะมีการขยายใหญ่ขึ้น และหดตัวเล็กลงสลับกันไปตลอดช่วงชีวิต ส่วนโครงสร้างครัวเรือนก็เปลี่ยนไปตามองค์ประกอบทางอายุ และเพศของสมาชิก โดยนัยนี้ครัวเรือนจึงเป็นหน่วยทางสังคมที่มีพลวัต คือเปลี่ยนแปลงไปไม่หยุดนิ่ง สิ่งที่ท� ำให้ขนาดและโครงสร้างครัวเรือนเปลี่ยนไปมี ๒ อย่าง คือ กระบวนการทางประชากร และ กระบวนการแยกครัวเรือนของสมาชิกรุ่นลูกและรุ่นต่อ ๆ ไป ซึ่งในสังคมชนบทของไทยมักจะตามมาด้วย การจัดสรรทรัพยากรส� ำคัญคือที่ดินท� ำการเกษตรส� ำหรับครัวเรือนของรุ่นลูกที่เริ่มต้นใหม่
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=