วารสารปี-40-ฉบับที่-4-resize

เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม 47 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๔ ต.ค.-ธ.ค. ๒๕๕๘ สมัยนั้นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชนที่ร�่ ำรวยและกลุ่มเชื้อพระวงศ์ได้มีปฏิกิริยาคัดค้านอย่าง รุนแรง ถึงกับกล่าวหาว่าเป็นการกระท� ำที่มุ่งท� ำลายล้างสถาบันทางเศรษฐกิจในสมัยนั้น พระราชบัญญัติอากรมฤดกและอากรการรับมฤดกฉบับดังกล่าว ได้รับอนุมัติจากสภาผู้แทน ราษฎร เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๖ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้สิทธิยับยั้งพระราชบัญญัติ ดังกล่าว แต่สภาผู้แทนราษฎรคงยืนยันตามเดิมให้กฎหมายนั้นมีผลบังคับใช้ได้ สาเหตุหนึ่งที่พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้สิทธิยับยั้งพระราชบัญญัติฉบับนั้น ก็เพราะว่าพระราชบัญญัติอากรมฤดกและ อากรการรับมฤดกบัญญัติให้เก็บภาษีพระมหากษัตริย์ด้วย ซึ่งทรงเห็นว่าเป็นการท� ำลายสถาบันกษัตริย์และ การขัดแย้งเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนั้นได้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ท� ำให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละ ราชสมบัติ 2 เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๗ การที่เกิดการขัดแย้งในกฎหมายภาษีมรดกดังกล่าวนั้น ก็เนื่องจากว่ากฎหมายมิได้ก� ำหนด การยกเว้นการเก็บภาษีมรดกจากพระมหากษัตริย์ไว้ในกฎหมายนั้น ซึ่งก็หมายความว่าพระมหากษัตริย์จะต้อง ถูกเก็บภาษีมรดกด้วย ทั้งนี้ เพราะว่าพระมหากษัตริย์ก็อยู่ใต้กฎหมายของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในปีต่อมา ได้มีการแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยการก� ำหนดการยกเว้นไม่เก็บภาษีส� ำหรับพระมหากษัตริย์ พระราชบัญญัติอากรมฤดกและอากรการรับมฤดก พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้มีการใช้อยู่ประมาณสิบปี และถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติอากรมฤดกและอากรการรับมฤดกพุทธศักราช ๒๔๗๖” วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี 3 หลังจากนั้นก็ไม่มี การรื้อฟื้นกฎหมายเกี่ยวกับภาษีมรดกอีกเลย ทั้งนี้ อาจตั้งเป็นข้อสังเกตอันหนึ่งได้ว่า ในช่วงระยะเวลา ที่ประเทศไทยปกครองในระบอบรวบอ� ำนาจหรือเผด็จการนั้น รัฐบาลมิค่อยได้ค� ำนึงถึงความเสมอภาค ทางเศรษฐกิจของประชาชน และในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นได้ท� ำให้เกิดการ “รวบ” กรรมสิทธิ์ในการถือครอง ทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในทางตรงกันข้าม พระราชบัญญัติอากรมฤดกและอากรการรับมฤดก พ.ศ. ๒๔๗๖ นั้น อาจจะแสดงให้เห็นว่าการปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลได้ให้ความส� ำคัญแก่ความเสมอภาคทางเศรษฐกิจของคนภายในสังคม ทั้งนี้ ก็เนื่องจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นรากฐานของปัญหาและพลังของสังคมในสังคมที่ฐานะความเป็นอยู่ ของคนมีความแตกต่างกันอย่างมากนั้น ย่อมจะท� ำให้การรวมกันอยู่ของคนในสังคมเป็นไปอย่างสงบสุขได้ยาก การเก็บภาษีมรดกเป็นมาตรการอันหนึ่งที่จะลดความแตกต่างในฐานะความเป็นอยู่ของคนในสังคม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบกระเทือนของภาษีมรดกที่จะมีต่อเศรษฐกิจการเมืองของสังคมย่อมจะขึ้นอยู่กับ 2 ชัยนันท์ นันทพันธ์, “พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ กับระบบรัฐธรรมนูญ” วารสารธรรมศาสตร์ ปีที่ ๓ เล่ม ๑ (๒๕๑๖) 3 ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม ๖๔ ตอนที่ ๖, พุทธศักราช ๒๔๘๗

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=