วารสารปี-40-ฉบับที่-4-resize

ทศพร วงศ์รัตน์ 189 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๔ ต.ค.-ธ.ค. ๒๕๕๘ รูปที่ ๑๒ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีนโยบายติดต่อกับฝรั่งในด้านต่าง ๆ เต็มที่ จนสมเด็จ พระมหาสมณเจ้า กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงกล่าวว่า “ใครรู้ภาษาต่างประเทศก็โปรด” เช่นเดียวกับ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในด้านภาษา สุนทรภู่ก็กล่าวถึงทั้ง ๒ พระองค์ขณะเป็นเจ้าฟ้า ไว้ในนิทานพระอภัยมณี ตอนที่ ๑๒ หน้า ๑๗๑ ว่า “หัดภาษาฝรั่งทั้งจีนจาม ราวกับล่ามพูดคล่อง ทั้งสององค์” และโปรดการใส่เสื้อผ้าอาภรณ์แบบฝรั่ง รวมทั้งการประดับเหรียญตรา ขณะที่ในครั้ง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้เสนาอ� ำมาตย์ฝ่ายชายถอดเสื้อว่าราชการกัน หรือตั้งแต่ต้นเรื่องที่เกี่ยวกับภาษา ยังมีที่เสริมแต่งไว้อีกหลายครั้ง เช่น เริ่มตั้งแต่ในตอนที่ ๙ หน้า ๑๕๑ ว่า “ฝ่ายโยคีที่อยู่บนภูเขา กับคนเหล่าเหลือตายหลายภาษา ทั้งจีนจามพราหมณ์แขกไทยชวา วิลันดาฝรั่งพรั่งพร้อมกัน” ค� ำกลอนดังกล่าวแสดงถึงความหลากหลายของคนต่างชาติต่างภาษาจ� ำนวนมาก ที่เข้ามาอยู่ ในเมืองไทยกันในลักษณะ และพื้นฐานต่าง ๆ อีกทั้งสภาพนโยบายการปกครองของเจ้าบ้านผ่านเมืองไทย ตั้งแต่ครั้งโบราณ เช่น ในสมัยกรุงศรีอยุธยา คนชาติต่าง ๆ ก็มีที่ก� ำหนดพื้นที่ให้สร้างชุมชนของตน แต่ละชาติ ห่างจากชาติอื่น โดยเฉพาะในสมัยของสุนทรภู่ ก็ไม่ต้องการให้คนตะวันตกชาติใด มามีอิทธิพลในเมืองไทย แต่เพียงชาติเดียว ที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน เพียงในเขตกรุงเทพฯ ก็ยังมีชุมชนที่เป็นบ้านเขมร บ้านลาว บ้านญวน บ้านแขก ชุมชนชาวมอญ และที่ส� ำคัญคือชุมชนชาวจีนและมุสลิมมาลายู หรือในอีกด้านหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ยังเป็นที่รู้กันว่า เมืองไทยเป็นเมืองหนึ่งในปัจจุบันที่เหล่าอาชญากรระดับโลกมาใช้เป็นที่หลบซ่อน

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=