วารสารปี-40-ฉบับที่-4-resize

ฝรั่งเหตุจูงใจสุนทรภู่แต่งนิทานพระอภัยมณีค� ำกลอน 186 The Journal of the Royal Society of Thailand Volume 40 Number 4 Oct-Dec 2015 อังกฤษยกทัพเรือมาจอดทอดสมออยู่ ๔-๕ ล� ำ จะไปข้างไหนไม่แจ้ง รู้แต่ว่ากัปตันหันตรี บารนี มีหนังสือ นัดมาเปลี่ยนหนังสือสัญญาที่เมืองตรัง แต่ในที่สุดก็มิได้เข้ามา ในช่วงเวลาของปีเดียวกันนี้เอง ราวเดือนมกราคม เจ้าอนุวงศ์ซึ่งเคยมีประวัติเติบโตและร�่ ำเรียน ในกรุงเทพฯ อีกทั้งเคยประกอบวีรกรรมในกองทัพไทย จนในที่สุดได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ผู้ครองเมืองเวียงจันทน์ และราชบุตรโย้ได้ครองเมืองจ� ำปาศักดิ์ หลังจากลงมาช่วยงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและกลับไปแล้ว กลับคิดร้ายต่อกรุงเทพฯ โดยพิจารณาว่า “ที่กรุงเดี๋ยวนี้มีแต่เจ้านายเด็ก ขุนนางผู้ใหญ่ก็น้อยตัว ฝีมือทัพศึกก็อ่อนแอ ทั้งพระยานครศรีธรรมราชก็ไม่อยู่ หัวเมืองรายทางก็ไม่มีที่กีดขวาง การเป็นที่หนักหนาแล้ว ไม่ควรเราจะเป็นเมืองขึ้น ข่าวอังกฤษก็มารบกวนอยู่ เราจะยกทัพไปตีเอากรุง ก็เห็นจะได้โดยง่าย” จึงได้ยกทัพออกจากเวียงจันทน์ ท� ำทีมาช่วยกรุงเทพฯ บุกเข้ามา ถึงเมืองนครราชสีมา ในวันพุธที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ปีจอ พ.ศ. ๒๓๖๙ และประกาศเป็นขบถด้วยการยึดเมือง (ทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี, ๒๕๔๗) การรบจริงกับฝรั่งในนิทานหลายตอนจึงปั้นขึ้นจากเรื่องนี้ น่าสังเกตว่า ในเรื่องกับกัปตันหันตรี บารนี หลังจากสุนทรภู่เอามาแต่งเป็นนิทานพระอภัยมณี ไว้ในตอนที่ ๖ หน้า ๗๒ ดังกล่าวมาแล้ว เมื่อมาท� ำทีข่มขู่พร้อมแจ้งนัดเข้ามาเปลี่ยนสัญญา สุนทรภู่ได้คิด เอามาแต่งเป็นนิทานอีก ในร่างของอุศเรนโอรสเจ้าลังกา ในภาพของกษัตริย์อังกฤษ สวมกับเรื่องของตัวเอง กับนางจันและบุคคลที่ ๓ ในที่นี้คืออุศเรน ไว้อีกในตอนที่ ๑๑ หน้า ๑๖๘ ว่า “ฝ่ายองค์ท้าวเจ้าลังกามหากษัตริย์ ซึ่งมานัดการวิวาห์สถาผล จึงสั่งบุตรอุศเรนให้เกณฑ์คน แล้วยกพลเภตรามาห้าพัน ถึงปากอ่าวเมืองผลึกก็ครึกครื้น ให้ยิงปืนเป็นสัญญาโกลาลั่น ทอดสมอรอเรียงอยู่เคียงกัน คอยส� ำคัญฟังข่าวชาวบุรีฯ” น่าจะกล่าวได้ว่า ขณะนั้นสุนทรภู่ก็ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับสมเด็จพระจักรพรรดินีวิกตอเรียแห่งอินเดีย ในอนาคต (ค.ศ. ๑๘๓๖-๑๙๐๑) ขณะเป็นเจ้าหญิงพระองค์น้อย พระชนม์เพียง ๕ พรรษา ใน พ.ศ. ๒๓๖๗ แต่อยู่ในอันดับ ๑ ที่จะขึ้นครองราชย์ (ใน พ.ศ. ๒๓๘๐) ต่อจาก พระเจ้าวิลเลียมที่ ๔ แห่งอังกฤษและ ไอร์แลนด์ผู้เป็นพระอัยกา เมื่อสุนทรภู่คิดแต่งให้ท้าวสิลราชเจ้าเมืองผลึกฝ่ายไทย และเจ้าเมืองลังกาฝ่าย ฝรั่งอังกฤษ สิ้นชีวิตไปในนิทานตอนที่ ๑๔ และ ๒๖ ตามล� ำดับ เมืองผลึกใน ตอนที่ ๒๒ โดยพระอภัยมณี ที่ได้ครองเมืองในภาพของสุนทรภู่ที่จะสู้ด้วยปากแทนพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามค� ำกลอน หน้า ๓๓๕ ว่า “พระอภัยได้เสวยเศวตฉัตร” จึงต่อสู้ท� ำศึกกับเมืองลังกาที่มีนางละเวงวัณฬาในภาพของ สมเด็จพระจักรพรรดินีวิกตอเรีย ตั้งแต่นิทาน ตอนที่ ๒๖ จนจบเป็นค� ำกลอน เช่น ในหน้า ๔๒๐, ๔๒๖ ว่า

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=