วารสารปี-40-ฉบับที่-4-resize
ทศพร วงศ์รัตน์ 169 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๔ ต.ค.-ธ.ค. ๒๕๕๘ ในเดือน ๓ ปีมะโรงนั้น พระเจ้าเตากวางมีราชสาส์นแจ้งมาว่า เพราะเจ้าเกียเข้งสิ้นพระชนม์ ถึงเดือน ๖ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๖๔ จึงโปรดฯ ให้แต่งทูตเชิญพระราชสาส์น แจ้งออกไปค� ำนับศพพระเจ้าเกียเข้ง และเจริญทางพระราชไมตรีถึงพระเจ้ากรุงปักกิ่ง (ด� ำรงราชานุภาพ, ๒๕๔๖) (จากปี่เตียวเหลียง ใน “ไซฮั่น” ถึงปี่สกอต สุนทรภู่ได้ปี่แก้วทันทีส� ำหรับพระอภัยมณี) ถึงเดือน ๔ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๖๔ นั้น มาร์ควิส วอร์เรน เหสติงส์ (Marquis of Warren Hastings) ผู้ส� ำเร็จราชการราชอาณาจักรอังกฤษในอินเดีย ได้ให้ผู้รักษาการอังกฤษที่เมืองสิงคโปร์มีหนังสือแจ้งถึงไทย ว่า จะแต่งให้นายแพทย์จอห์น ครอว์เฟิร์ด (John Crawfurd) เป็นทูตเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรี หลังจากที่อังกฤษซบเซาไปถึง ๒๐ กว่าปี เนื่องจากฝรั่งในยุโรปเกิดรบพุ่งกัน (พ.ศ. ๒๓๓๒-๒๓๕๘) เพราะการปฏิวัติฝรั่งเศส และการครองอ� ำนาจของจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส บัดนี้เลิกสงครามแล้ว รูปที่ ๖ ภาพทิวทัศน์ของแม่น�้ ำเจ้าพระยา เขตกรุงเทพฯ และเรือ “จอห์น อาดัม” (เห็นไกล) จากหนังสือ “The Mission to Siam and Hué 1821-1822” โดย George Finlayson (1826) เป็นนายแพทย์ ชาวสกอต ท� ำหน้าที่เป็นนักธรรมชาติวิทยา ในคณะของทูตนายแพทย์จอห์น ครอว์เฟิร์ด เรื่องราวของเขา ในที่นี้สุนทรภู่เอามาแต่งสวมเป็นโจรสุหรั่งพร้อมกับทูตกัปตัน หรือร้อยเอกเฮนรี่ เบอร์นี และนายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ ว่า “จะกล่าวฝ่ายนายโจรใจฉกาจ เป็นเชื้อชาติอังกฤษริษยา คุมสลัดอัศตันวิลันดา เป็นโจรห้าหมื่นพื้นทมิฬ มีก� ำปั่นนั้นยาวยี่สิบเส้น กระท� ำเป็นตึกกว้านสถานถิ่น หมากมะพร้าวส้มสูกปลูกไว้กิน ไม่รู้สิ้นเอมโอชโภชนา เลี้ยงทั้งแพะแกะไก่สุกรห่าน คชสารม้ามิ่งมหิงสา” (จาก “พระอภัยมณีค� ำกลอน” ตอนที่ ๑๕ หน้า ๒๑๓) ส่วนอังกฤษก็มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ และยังสามารถมีเมืองท่าเพิ่มขึ้น อีกทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส� ำหรับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ (The English East India Company, EIC ที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม พ.ศ. ๒๑๕๕ แต่ตั้งขึ้นก่อนในลอนดอนตั้งแต่ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๑๔๓ ด้วยหวังเป็นผลพลอยได้เกี่ยวกับการค้นพบสิ่งที่แปลกประหลาดน่าพิศวง ส� ำหรับ พิพิธภัณฑ์) คือเกาะหมาก หรือปีนัง ใน พ.ศ. ๒๓๒๙ และสิงคโปร์ ที่อังกฤษได้ขอเช่าจากสุลต่านยะโฮร์ ใน พ.ศ. ๒๓๖๒ รวมทั้งลังกาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๕๘ ส่วนอินเดียหรือชมพูทวีปนั้นก็ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๑๖ จึงคิด รื้อฟื้นบ� ำรุงการค้าขายกับไทยและญวน ที่เคยท� ำกันรุ่งเรืองมาก่อน เพราะเมืองทั้งสองนี้ เคยเป็นแหล่ง ที่พ่อค้าฝรั่งต่างประเทศไปมาค้าขาย ได้ก� ำไรมากทั้ง ๒ แห่ง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=