วารสารปี-40-ฉบับที่-4-resize

สมศักดิ์ ด� ำรงค์เลิศ, วารีรมย์ พลรัตน, วิญญู ตัณฑะพานิชกุล, บุตรา บุญเลี้ยง 91 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๔ ต.ค.-ธ.ค. ๒๕๕๘ ผลการทดลองจากสกรูใหญ่ได้แสดงในรูปที่ ๖ รูปนี้แสดงความสัมพันธ์ของความเร็วของสกรู ปริมาณ การผลิตและปริมาตรความต้านทานไฟฟ้าของวัสดุเชิงประกอบที่ผลิตได้คล้ายกับผลการทดลองของสกรูเล็ก ผู้วิจัยได้พบเส้นขอบเขตแบ่งวัสดุที่น� ำไฟฟ้ากับวัสดุที่ไม่น� ำไฟฟ้าเป็นรูปสามเหลี่ยมเช่นเดียวกัน และสมการ ของเส้นขอบเขตแสดงไว้ในสมการที่ ๔ Y = 8.926 X (๔) จึงสามารถสรุปได้ว่าการผลิตวัสดุเชิงประกอบคาร์บอนนาโนกับพอลิโพรพิลีนให้ได้เป็นวัสดุที่น� ำไฟฟ้าได้ จะต้องมีภาวะท� ำงานอยู่ในพื้นสามเหลี่ยมของความสัมพันธ์ของความเร็วสกรูและปริมาณการผลิต ไม่ว่าจะผลิต ด้วยสกรูเล็กหรือขนาดขั้นอุตสาหกรรม ในการผลิตวัสดุเชิงประกอบขั้นขยายจากระดับห้องปฏิบัติการเป็นระดับอุตสาหกรรมนั้นมีวิธีการ หลายแบบ เช่น เวลาที่วัสดุท� ำงานในเครื่องคงตัว อัตราเฉือนคงตัว และพลังงานที่ใช้ตามก� ำหนด (Rauwendaal, 2001; Thümen, 2010) งานวิจัยนี้จะท� ำงานขั้นขยายขนาดด้วยตัวแปรที่ให้ผลสอดคล้องกับเส้นขอบเขตของ กฎหน้าต่างสามเหลี่ยม ความเชื่อมั่นของปัจจัยต่าง ๆ ในการใช้กับกฎหน้าต่างสามเหลี่ยม การขยายก� ำลังการผลิตเป็นงานที่นักวิทยาศาสตร์จ� ำเป็นต้องเข้าใจในรายละเอียดของชนิดอุปกรณ์ แต่ละชนิด โดยเฉพาะเครื่องผลิตชนิดสกรูแกนคู่มีปัจจัยในการด� ำเนินงานมากและบางปัจจัยจะแปรเปลี่ยน ควบคู่กัน อาทิ ปริมาณการผลิต อุณหภูมิ และความเร็วรอบของสกรู ซึ่งส่งผลกระทบต่อ ค่าดัชนีการผสม เวลาคงค้างในสกรู อัตราแรงเฉือน ความเร็วเชิงเส้นที่ปลายขอบเกลียว ดังนั้น การด� ำเนินงานของสกรูใหญ่จึงต้องใช้โปรแกรม WinTXS 3.0 และพยายามปรับค่าตัวแปร เพื่อรักษาค่าดัชนีการผสมไว้ที่ ๖๐ เพื่อให้สามารถผลิตวัสดุเชิงประกอบที่มีค่าปริมาตรความต้านทานไฟฟ้า ๑๐ ๒ ถึง ๑๐ ๗ โอห์ม-เซนติเมตร ได้เส้นขอบเขตดังแสดงในรูปที่ ๓ ถ้าใช้ขนาดอัตราส่วนความยาวของแกนสกรูต่อความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากันแล้วท� ำงาน ด้วยความเร็วของสกรูเท่ากัน วัสดุเชิงประกอบจะอยู่ในเครื่องสกรูเป็นเวลาเท่ากันดังสมการที่ ๕ ผลการทดลอง ได้แสดงไว้ในรูปที่ ๓ L 2 /( π D 2 N 2 ) = L 1 /( π D 1 N 1 ) (๕)

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=